เรื่องใหม่น่าสนใจ (ทั้งหมด ที่ )
(เนื้อหา-ข้อสอบ 1,000 ชุด หมื่นข้อ ภาค กข+ 40 วิชาเอก) ที่
ติวสอบดอทคอม คลิ๊ก www.tuewsob.com
-คู่มือ 4 ชุด นโยบาย บริบริหาร ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
-เกณฑ์ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ โดย สมศ.
- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่
เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
ช็อกภัยหนาว สังเวยแล้ว8ศพ
แปรปรวนฝน-พายุวิปริตถึงสิ้นเดือน
หนาวยะเยือก ยอดภูเรือ ภูหลวง จ.เลย ดอยผาตั้ง จ.เชียงราย อุณหภูมิลดฮวบเหลือ -1 องศาเซลเซียส เชียงใหม่ลมหนาวกระหน่ำ มีฝน ลูกเห็บตก ทำให้บ้านเรือนเสียหายกว่า 100 หลัง ภูทับเบิกเหลือ 0 องศา นักท่องเที่ยวทิ้งเต็นท์นอนบ้านพัก มีคนเสียชีวิตสังเวยภัยหนาวรวม 8 ศพ ภาคใต้คลื่นลมโถมกระหน่ำ สุราษฎร์ธานีคลื่นซัดบ้านเสียหาย 20 หลัง เรือต่างๆงดออกทะเล นครศรีธรรมราช บ้านเรือนชายฝั่ง อ.ปากพนัง และหัวไทร คลื่นซัดท่วมบ้านหลายหลัง ทางหลวงต้องปิดถนนเลียบอ่าวไทย ไต้หวันอุณหภูมิลดต่ำเป็นประวัติการณ์รอบ 44 ปี คนแก่สังเวยชีวิต 90 ราย ที่ญี่ปุ่นหิมะตกหนักต้องยกเลิกเที่ยวบินในประเทศกว่า 600 เที่ยว มีผู้เสียชีวิต 5 ราย เจ็บกว่า 100 คน
หลายภาคของประเทศไทยได้รับผลกระทบจากความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่เข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก ส่งผลให้ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลางและตะวันออกมีอากาศแปรปรวน มีฝนฟ้าคะนองและมีลมแรง อุณหภูมิลดลงฮวบฮาบ โดยเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ จ.เลย อากาศยังคงหนาวเย็น ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 9-11 องศา บนยอดภูที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 1.2 องศา ส่วนอุทยานแห่งชาติภูเรือ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงอุณหภูมิอยู่ที่ -1 องศา ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเลย อ.ภูเรือ 8 องศา ชาวบ้านหลายพื้นที่ต้องนั่งผิงไฟคลายหนาว ขณะที่โรงเรียนอนุบาลด่านซ้าย ครูต้องนำเด็กนักเรียนเต้นกลางสนามหญ้าสร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย
ที่ จ.มุกดาหาร อากาศหนาวเย็นลงกว่าเมื่อวานอีก 4 องศา ทำให้อุณหภูมิอยู่ที่ 11 องศา และมีลมแรง สลับกับฝนตก ชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ติดริมฝั่งโขงทุกบ้านต้องหาผ้าใบมาปิดกั้นลมไว้และต้องก่อไฟผิงไว้ทั้งวันและตอนกลางคืน การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างรวดเร็วส่งผลให้ชาวบ้านเจ็บป่วยไปตามๆกัน โดยในช่วงเช้ามีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตามโรงพยาบาลประจำอำเภอและโรงพยาบาลมุกดาหารรวมกว่า 600 คน มีทั้งเด็กและคนชรา ส่วนใหญ่ป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ และโรคหอบหืด
ที่ จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า อากาศในพื้นที่หนาวเย็นเร็วมาก จากเมื่อวานอุณหภูมิอยู่ที่ 14-16 องศา เช้านี้ลดลงเหลือ 12 องศา พื้นที่สูง เช่น เขาใหญ่ อ.ปากช่อง วังน้ำเขียว ปักธงชัย ครบุรี และ อ.เสิงสาง อุณหภูมิ 9-10 องศา ถือว่าหนาวมาก น่าจะมากที่สุดในรอบ 20 ปี สวนสัตว์นครราชสีมา เจ้าหน้าที่สวนสัตว์หาวิธีคลายหนาวให้สัตว์โดยเฉพาะสัตว์ขนาดเล็ก อาทิ ลิงกระรอก และลิงปิ๊กมี่มาโมเซท โดยนำกระสอบป่านหนาๆไปกางขึงไว้ภายในกรงทำเป็นที่นอน ส่วนกรงไก่ฟ้าและกรงนกขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่นำแผ่นพลาสติกไปปิดบังลมที่กรงพร้อมทั้งเปิดหลอดไฟให้ความอบอุ่น เช่นเดียวกับสวนสัตว์อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ได้นำฟาง กระสอบป่านจัดเป็นที่นอนให้สัตว์ซุกนอนคลายหนาว ส่วนสัตว์เลือดเย็น อาทิ งู เต่า ต้องใช้แผ่นความร้อนวางเป็นที่นอน และนำสัตว์ออกมาผึ่งแดด ส่วนหมีขอในส่วนจัดแสดงมินิซู เจ้าหน้าที่นำเสื้อมาสวมให้ลูกหมีขอ
ขณะที่ภัยหนาวคร่าชีวิตชาวบ้านในภาคอีสานรวม 4 ราย รายแรก ชื่อนางวราพร แซ่เฮง อายุ 59 ปี นอนตายอยู่บนเตียงใต้บันไดชั้นล่างตึกแถวเลขที่ 107/7 ชุมชนประปาพัฒนา ถนนประปา ต.ในเมือง คาดสาเหตุจากป่วยเป็นโรคประจำตัวทั้งเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ประกอบกับอากาศหนาวทำให้ช็อก รายที่สองชื่อนายนาวิน สิริพงษ์ธนากร อายุ 61 ปี นอนตายข้างกองไฟ ที่มอดแล้วบริเวณใต้ถุนบ้านเลขที่ 140 ชุมชนกกส้มโฮง ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมืองสกลนคร ตามร่างกายมีแผลถูกไฟไหม้พุพองหลายแห่ง สอบสวนทราบว่าผู้ตายนั่งดื่มเหล้าผิงไฟกับเพื่อนๆ กระทั่งดึกเพื่อนแยกย้ายกันกลับแต่ผู้ตายยังนั่งดื่มต่อ คาดว่าอาจเกิดอาการวูบล้มทับกองไฟ
รายที่สามชื่อนางจร พรหมประดิษฐ์ อายุ 75 ปี นอนตายในกระท่อมข้างบ้านเลขที่ 90/16 ถนนเทพาซอย 13 ต.เมืองเหนือ สภาพศพนอนห่มผ้าห่มอยู่บนเตียง สอบสวนทราบว่าผู้ตาย อยู่ในกระท่อมตามลำพัง ไม่ยอมไปอยู่บนบ้านกับลูกสาว กระทั่งเช้าลูกสาวเข้าไปเรียกพบว่าเสียชีวิตแล้ว รายสุดท้ายชื่อนายประสบ ทองเรือง อายุ 53 ปี อาชีพเก็บของเก่าขาย นอนหงายแข็งทื่อบนพื้นกระท่อมริมถนนราษฎรอุทิศ ติดลานกีฬาคุ้มวัดสามัคคี ต.ตลาด อ.เมืองมหาสารคาม โดยมีคนเห็นผู้ตายนั่งกินเหล้าตามลำพัง กระทั่งเช้ามีคนไปเรียกพบว่าเสียชีวิตแล้ว
ที่ จ.เชียงราย มีพายุฝนตกหนักลมกระโชกแรงส่งผลให้อากาศหนาวเย็นจัด อุณหภูมิลดฮวบต่ำกว่า 10 องศา บนดอยผาตั้ง หมู่ 14 ต.ปอ อ.เวียงแก่น มีอุณหภูมิอยู่ที่ -1 องศา น้ำค้างแข็งตัวเป็นเกล็ดแม่คะนิ้งที่ประตูสยามดอยผาตั้ง เป็นครั้งแรกและหนาวสุดในรอบ 16 ปี ชาวบ้านต่างหยุดงานนั่งผิงไฟจิบน้ำชาอยู่แต่ในบ้าน ที่โรงเรียนบรรพตวิทยา บ้านผาตั้ง นักเรียนต้องนั่งจับกลุ่มนั่งผิงไฟเรียนเป็นกลุ่มๆ ส่วนที่ภูชี้ดาว อุณหภูมิลดเหลือ 1 องศา เกิดน้ำค้างแข็งบนยอดหญ้า เช่นเดียวกันภูชี้ฟ้า อ.เทิง มีฝนตกโปรยปรายอุณหภูมิลดเหลือ 1 องศา
ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา มีฝนตก ลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ บางแห่งมีลูกเห็บตกลงมาด้วย ทำให้บ้านเรือนประชาชนหลายหมู่บ้านใน อ.แม่ออน ถูกลมพัดหลังคาเสียหายกว่า 100 หลัง บ้านวาก ต.แม่ออน เสียหาย 57 หลัง บ้านป่าไม้ ต.แม่ออน 58 หลัง ขณะที่สภาพอากาศในช่วงเช้ามีฝนตกปรอยๆ ท้องฟ้ามืดครึ้ม อุณหภูมิในตัวเมืองเชียงใหม่ลดลงเหลือ 14 องศา ดอยอินทนนท์ อุณหภูมิยอดดอยวัดได้ 6 องศา ขณะที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปานวัดได้ 6 องศา
ที่ จ.ตาก เกิดฝนตกหนักตั้งแต่เช้ามืด ทำให้อุณหภูมิลดรวดเดียวกว่า 10 องศา ดอยมูเซอ ต.แม่ท้อ อ.เมืองตาก อุณหภูมิอยู่ที่ 11.8 องศา จากเมื่อวานอุณหภูมิอยู่ที่ 23 องศา ทำให้มีหมอกลงจัดทั่วบริเวณอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช ที่มีนักท่องเที่ยวที่มาค้างคืนโต้ลมหนาวต้องหนีไปนอนในบ้านพักแทน ส่วนชาวบ้านต้องก่อไฟผิงเพื่อคลายหนาว ที่ จ.เพชรบูรณ์ นายซัว เถารักตระกูล อายุ 56 ปี ประธานวิสาหกิจชุมชนภูทับเบิก อ.หล่มเก่า กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาอุณหภูมิยอดภูลดลงเหลือ 0 องศา ทำให้นักท่องเที่ยวทนหนาวไม่ไหวเดินทางกลับนับสิบราย เพราะเครื่องกันหนาวที่เตรียมมาไม่สามารถป้องกันความหนาวยะเยือกได้
ส่วน จ.ชัยนาท ทั่วทุกพื้นที่เผชิญสภาพอากาศหนาวเย็น และลมกระโชกแรง อุณหภูมิอยู่ที่ 13 องศา ต่ำสุดในรอบ 10 ปี ประชาชนต้องสวมเสื้อกันหนาวสร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ปฏิกรณ์ หาญหัตถกิจ พงส.สภ.เมืองชัยนาท ตรวจสอบศพนางจำรัส ยอดเพ็ชร อายุ 72 ปี เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 55 หมู่ 1 ต.ชัยนาท สอบสวนทราบว่าผู้ตายไม่มีโรคประจำตัวแต่ชอบดื่มสุรา คาดว่าช็อกตายเพราะอากาศหนาว อีกราย พ.ต.ท.ปฏิกรณ์ไปตรวจสอบศพนายสัมพันธ์ เพ็งขันธ์ อายุ 68 ปี เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 150 หมู่ 1 ต.บ้านกล้วย สอบสวนทราบว่าผู้ตายป่วยเป็นโรคหัวใจและความดัน คาดว่าสภาพอากาศที่หนาวเย็นทำให้ช็อกเสียชีวิต
ตอนสายวันเดียวกัน ร.ต.อ.ธีระวัฒน์ สีสุก พงส.สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ สอบสวนเหตุมีผู้เสียชีวิตบริเวณท่าน้ำโรงเรียนปากคลองมอญ หมู่ 3 ต.ศีรษะจรเข้น้อย พบศพวิเชียร ลิขิตสุภิณ อายุ 38 ปี นอนตายในเรือหางยาวจอดเทียบท่าน้ำ สอบสวนทราบว่านายวิเชียรป่วยเป็นโรคหัวใจ และพิษสุราเรื้อรัง เกิดช็อกหมดสติญาติรีบนำขึ้นเรือเพื่อไปส่งโรงพยาบาลแต่ได้เสียชีวิตระหว่างทาง อีกราย ร.ต.อ.ธีระวัฒน์ไปสอบสวนเหตุมีผู้เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 99/4 51 ซอย 39 หมู่บ้านชลลดา หมู่ 1 ต.ศีรษะจรเข้น้อย พบศพ พ.อ.อ.ประจวบ ศิลปสถาน อายุ 63 ปี นอนตายอยู่ในบ้าน ญาติแจ้งว่าผู้ตายป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดัน และนิ่ว ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองรายมีโรคประจำตัว ประกอบกับเมื่อคืนอากาศหนาวเย็นอย่างรวดเร็ว ทำให้ปรับตัวไม่ทันเป็นเหตุให้เสียชีวิต
ที่ จ.ตราด นายฐิตนันท์ อุดมสุข หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราด กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดพายุลมแรงต่อเนื่อง จนรุ่งเช้าในหลายพื้นที่ ทำให้ต้นไม้หักโค่น มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.เกาะช้าง อ.บ่อไร่ อ.เขาสมิง และ อ.คลองใหญ่ รวมกว่า 60 หลังคาเรือน ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับความเสียหายกระเบื้องหลังคาบ้านถูกลมพัดหลุดปลิวแตก ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงไปสำรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือแล้ว
ขณะที่หลายจังหวัดภาคใต้จนถึง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เกิดคลื่นลมแรงซัดกระหน่ำชายฝั่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก ที่อ่าวประจวบ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ชาวประมงเรือเล็กและขนาดกลางต้องนำเรือจอดริมชายฝั่งเพื่อหลบความแรงลมและกระแสน้ำ ชาวประมงพื้นบ้านลากเรือไปจอดหลบลมบริเวณข้างเขาล้อมหมวก ภายในกองบิน 5 ต่อมา น.อ.พรประเสริฐ ผ่านภพ รอง ผบ.บน.5 นำกำลังทหารหน่วยอากาศโยธินกว่า 30 นาย ช่วยกันนำเรือเล็ก 50 ลำขึ้นจากทะเลทั้งหมดชาวบ้านหวั่นเกรงเรือจะจมที่ชายฝั่งทะเล จ.สงขลา มีคลื่นลมแรงพัดกระหน่ำกัดเซาะชายฝั่ง สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่บริเวณชายหาดบ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมืองสงขลา ใกล้กับสถานีสูบน้ำเสียที่ 4 ยังไม่มีการก่อสร้างเขื่อนป้องกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง คลื่นสูงซัดชายฝั่งทำให้ต้นสนขนาดใหญ่ล้มระเนระนาดหลายสิบต้น จ.นครศรีธรรมราช ชาวประมงพื้นบ้านช่วยกันเคลื่อนย้ายเรือประมงขนาดเล็กไปไว้ในที่ปลอดภัยหลังถูกกระแสคลื่นซัดสูงกว่า 2 เมตร บ้านเรือนพื้นที่บริเวณชายฝั่ง อ.ปากพนังและ อ.หัวไทร พังเสียหายหลายหลังคาเรือน เจ้าหน้าที่สำนักทางหลวงที่ 16 นครศรีธรรมราช ประกาศปิดถนนเลียบอ่าวไทยช่วงระหว่าง อ.ปากพนังกับ อ.หัวไทรเป็นการชั่วคราว
ที่ จ.สุราษฎร์ธานี เกิดคลื่นลมแรงซัดชายฝั่งทะเลอ่าวไทยในพื้นที่ อ.ดอนสัก ได้รับผลกระทบคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ซัดเข้าพื้นที่บ้านเกาะแรต หมู่ 3 บ้านเรือนเสียหายกว่า 20 หลังคาเรือน เรือโดยสารเฟอร์รี่เส้นทางเกาะสมุย-ดอนสักออกเดินทางจากท่าเทียบเรือหน้าทอนตั้งแต่เวลา 09.00 น. ต้องใช้เวลาเดินทางนานกว่า 5 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ต้องประกาศให้ผู้โดยสารบนเรือกว่า 300 คน สวมเสื้อชูชีพจนเรือเข้าเทียบท่า แต่ยังไม่สามารถนำรถยนต์และสินค้าขึ้นจากเรือได้ ส่วนเที่ยวเดินเรืออื่นๆ ยังต้องงดการเดินเรือเป็นการชั่วคราว ขณะที่สนามบินสุราษฎร์ธานี เครื่องบินต้องดีเลย์รออากาศเปิดใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจนสามารถทำการบินได้ตามปกติ
ด้านนายบรรยง อินทมาตย์ นายก อบต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร กล่าวว่า ในพื้นที่ ต.บางน้ำจืด ชาวบ้าน 6 หมู่บ้าน 250 ครัวเรือน ที่ตั้งอยู่ชายหาดรวมทั้งรีสอร์ต ร้านอาหารถูกคลื่นซัดพังเสียหาย สะพานไม้ที่ท่าเรือไปเกาะพิทักษ์พังเหลือแต่ตัวศาลา นักท่องเที่ยวกว่า 100 คน ไม่สามารถเดินทางออกจากเกาะพิทักษ์ได้เนื่องจากคลื่นสูงลมแรง
นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 26-27 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ รวมถึงมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาเคลื่อนผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศแปรปรวน มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นและยังคงมีอากาศหนาวเย็น โดยภาคเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศาฯ ภาคกลางและภาคตะวันออก อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศา กทม.และปริมณฑล อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศา ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร จากนั้นวันที่ 28-31 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมจะมีกำลังอ่อนลง ส่งผลให้มีฝนลดลง และอุณหภูมิสูงขึ้น แต่บริเวณประเทศไทยตอนบนจะยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า ขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมจะมีกำลังอ่อนลงเช่นกัน ทำให้บริเวณอ่าวไทยมีคลื่นลมอ่อนลงด้วย
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสภาพอากาศที่หนาวผิดฤดูหลายประเทศในเอเชีย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เทศบาลท้องถิ่นในกรุงไทเป ประเทศไต้หวัน เผยแต่ชื่อสกุลว่านายฉาง กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นอุณหภูมิลดฮวบเป็นประวัติการณ์ในรอบ 44 ปีเหลือ 4 องศา บ้านเรือนส่วนใหญ่ไม่มีเครื่องทำความร้อน ทำให้คนแก่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหายใจไม่สะดวก เสียชีวิตมากถึง 90 ราย ขณะที่ประชาชนต่างตื่นเต้นกับหิมะที่ตกในอุทยานแห่งชาติหยางหมิงชาน
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวบนเกาะเจจู ของเกาหลีใต้ เกือบ 90,000 คน ที่ตกค้างอยู่บนเกาะ หลังมีหิมะตกลงมาหนักสุดในรอบ 30 ปี จนอุณหภูมิติดลบ 6.1 องศา และทางกระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ต้องประกาศสั่งปิดสนามบินเจจู ส่งผลให้เที่ยวบินเกือบ 1,100 เที่ยวบินต้องยกเลิกตลอดสุดสัปดาห์นั้น ก็กลับมาให้บริการใหม่เป็นครั้งแรกเมื่อช่วงบ่าย 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่อากาศในกรุงโซล ซึ่งหนาวสุดขั้วในรอบ 15 ปี อุณหภูมิติดลบ 18 องศาเซลเซียส
ขณะที่ทางภาคตะวันตกและภาคกลางของญี่ปุ่นก็มีหิมะตกหนักเป็นประวัติการณ์ รวมเกาะอะมามิ ที่ชาวบ้านเห็นหิมะเป็นครั้งแรกในรอบ 115 ปี กับครั้งแรกที่เมืองนาโก เกาะโอกินาวาในรอบ 50 ปี และเมืองนางาซากิที่มีหิมะตกหนา 17 ซม. อีกทั้งยังเกิดพายุหิมะถล่มหลายแห่งที่ญี่ปุ่น จนยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศกว่า 600 เที่ยว และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย บาดเจ็บกว่า 100 คน หลายพื้นที่ในเมืองกวางโจวและเสิ่นเจิ้นของจีน ก็เกิดปรากฏการณ์หิมะตกครั้งแรกในรอบ 60 ปี นักท่องเที่ยวกว่า 10,000 คน ต้องตกค้างเพราะเที่ยวบินที่สนามบินคุนมิง มณฑลยูนนาน ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนล่าช้า และมีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 4 ราย อุณหภูมิติดลบ 12 องศาเซลเซียส ทั้งมณฑลเจ้อเจียง มณฑลฟูเจี้ยนและมณฑลกวางตุ้ง
แปรปรวนฝน-พายุวิปริตถึงสิ้นเดือน
หนาวยะเยือก ยอดภูเรือ ภูหลวง จ.เลย ดอยผาตั้ง จ.เชียงราย อุณหภูมิลดฮวบเหลือ -1 องศาเซลเซียส เชียงใหม่ลมหนาวกระหน่ำ มีฝน ลูกเห็บตก ทำให้บ้านเรือนเสียหายกว่า 100 หลัง ภูทับเบิกเหลือ 0 องศา นักท่องเที่ยวทิ้งเต็นท์นอนบ้านพัก มีคนเสียชีวิตสังเวยภัยหนาวรวม 8 ศพ ภาคใต้คลื่นลมโถมกระหน่ำ สุราษฎร์ธานีคลื่นซัดบ้านเสียหาย 20 หลัง เรือต่างๆงดออกทะเล นครศรีธรรมราช บ้านเรือนชายฝั่ง อ.ปากพนัง และหัวไทร คลื่นซัดท่วมบ้านหลายหลัง ทางหลวงต้องปิดถนนเลียบอ่าวไทย ไต้หวันอุณหภูมิลดต่ำเป็นประวัติการณ์รอบ 44 ปี คนแก่สังเวยชีวิต 90 ราย ที่ญี่ปุ่นหิมะตกหนักต้องยกเลิกเที่ยวบินในประเทศกว่า 600 เที่ยว มีผู้เสียชีวิต 5 ราย เจ็บกว่า 100 คน
หลายภาคของประเทศไทยได้รับผลกระทบจากความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่เข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก ส่งผลให้ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลางและตะวันออกมีอากาศแปรปรวน มีฝนฟ้าคะนองและมีลมแรง อุณหภูมิลดลงฮวบฮาบ โดยเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ จ.เลย อากาศยังคงหนาวเย็น ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 9-11 องศา บนยอดภูที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 1.2 องศา ส่วนอุทยานแห่งชาติภูเรือ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงอุณหภูมิอยู่ที่ -1 องศา ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเลย อ.ภูเรือ 8 องศา ชาวบ้านหลายพื้นที่ต้องนั่งผิงไฟคลายหนาว ขณะที่โรงเรียนอนุบาลด่านซ้าย ครูต้องนำเด็กนักเรียนเต้นกลางสนามหญ้าสร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย
ที่ จ.มุกดาหาร อากาศหนาวเย็นลงกว่าเมื่อวานอีก 4 องศา ทำให้อุณหภูมิอยู่ที่ 11 องศา และมีลมแรง สลับกับฝนตก ชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ติดริมฝั่งโขงทุกบ้านต้องหาผ้าใบมาปิดกั้นลมไว้และต้องก่อไฟผิงไว้ทั้งวันและตอนกลางคืน การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างรวดเร็วส่งผลให้ชาวบ้านเจ็บป่วยไปตามๆกัน โดยในช่วงเช้ามีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตามโรงพยาบาลประจำอำเภอและโรงพยาบาลมุกดาหารรวมกว่า 600 คน มีทั้งเด็กและคนชรา ส่วนใหญ่ป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ และโรคหอบหืด
ที่ จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า อากาศในพื้นที่หนาวเย็นเร็วมาก จากเมื่อวานอุณหภูมิอยู่ที่ 14-16 องศา เช้านี้ลดลงเหลือ 12 องศา พื้นที่สูง เช่น เขาใหญ่ อ.ปากช่อง วังน้ำเขียว ปักธงชัย ครบุรี และ อ.เสิงสาง อุณหภูมิ 9-10 องศา ถือว่าหนาวมาก น่าจะมากที่สุดในรอบ 20 ปี สวนสัตว์นครราชสีมา เจ้าหน้าที่สวนสัตว์หาวิธีคลายหนาวให้สัตว์โดยเฉพาะสัตว์ขนาดเล็ก อาทิ ลิงกระรอก และลิงปิ๊กมี่มาโมเซท โดยนำกระสอบป่านหนาๆไปกางขึงไว้ภายในกรงทำเป็นที่นอน ส่วนกรงไก่ฟ้าและกรงนกขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่นำแผ่นพลาสติกไปปิดบังลมที่กรงพร้อมทั้งเปิดหลอดไฟให้ความอบอุ่น เช่นเดียวกับสวนสัตว์อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ได้นำฟาง กระสอบป่านจัดเป็นที่นอนให้สัตว์ซุกนอนคลายหนาว ส่วนสัตว์เลือดเย็น อาทิ งู เต่า ต้องใช้แผ่นความร้อนวางเป็นที่นอน และนำสัตว์ออกมาผึ่งแดด ส่วนหมีขอในส่วนจัดแสดงมินิซู เจ้าหน้าที่นำเสื้อมาสวมให้ลูกหมีขอ
ขณะที่ภัยหนาวคร่าชีวิตชาวบ้านในภาคอีสานรวม 4 ราย รายแรก ชื่อนางวราพร แซ่เฮง อายุ 59 ปี นอนตายอยู่บนเตียงใต้บันไดชั้นล่างตึกแถวเลขที่ 107/7 ชุมชนประปาพัฒนา ถนนประปา ต.ในเมือง คาดสาเหตุจากป่วยเป็นโรคประจำตัวทั้งเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ประกอบกับอากาศหนาวทำให้ช็อก รายที่สองชื่อนายนาวิน สิริพงษ์ธนากร อายุ 61 ปี นอนตายข้างกองไฟ ที่มอดแล้วบริเวณใต้ถุนบ้านเลขที่ 140 ชุมชนกกส้มโฮง ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมืองสกลนคร ตามร่างกายมีแผลถูกไฟไหม้พุพองหลายแห่ง สอบสวนทราบว่าผู้ตายนั่งดื่มเหล้าผิงไฟกับเพื่อนๆ กระทั่งดึกเพื่อนแยกย้ายกันกลับแต่ผู้ตายยังนั่งดื่มต่อ คาดว่าอาจเกิดอาการวูบล้มทับกองไฟ
รายที่สามชื่อนางจร พรหมประดิษฐ์ อายุ 75 ปี นอนตายในกระท่อมข้างบ้านเลขที่ 90/16 ถนนเทพาซอย 13 ต.เมืองเหนือ สภาพศพนอนห่มผ้าห่มอยู่บนเตียง สอบสวนทราบว่าผู้ตาย อยู่ในกระท่อมตามลำพัง ไม่ยอมไปอยู่บนบ้านกับลูกสาว กระทั่งเช้าลูกสาวเข้าไปเรียกพบว่าเสียชีวิตแล้ว รายสุดท้ายชื่อนายประสบ ทองเรือง อายุ 53 ปี อาชีพเก็บของเก่าขาย นอนหงายแข็งทื่อบนพื้นกระท่อมริมถนนราษฎรอุทิศ ติดลานกีฬาคุ้มวัดสามัคคี ต.ตลาด อ.เมืองมหาสารคาม โดยมีคนเห็นผู้ตายนั่งกินเหล้าตามลำพัง กระทั่งเช้ามีคนไปเรียกพบว่าเสียชีวิตแล้ว
ที่ จ.เชียงราย มีพายุฝนตกหนักลมกระโชกแรงส่งผลให้อากาศหนาวเย็นจัด อุณหภูมิลดฮวบต่ำกว่า 10 องศา บนดอยผาตั้ง หมู่ 14 ต.ปอ อ.เวียงแก่น มีอุณหภูมิอยู่ที่ -1 องศา น้ำค้างแข็งตัวเป็นเกล็ดแม่คะนิ้งที่ประตูสยามดอยผาตั้ง เป็นครั้งแรกและหนาวสุดในรอบ 16 ปี ชาวบ้านต่างหยุดงานนั่งผิงไฟจิบน้ำชาอยู่แต่ในบ้าน ที่โรงเรียนบรรพตวิทยา บ้านผาตั้ง นักเรียนต้องนั่งจับกลุ่มนั่งผิงไฟเรียนเป็นกลุ่มๆ ส่วนที่ภูชี้ดาว อุณหภูมิลดเหลือ 1 องศา เกิดน้ำค้างแข็งบนยอดหญ้า เช่นเดียวกันภูชี้ฟ้า อ.เทิง มีฝนตกโปรยปรายอุณหภูมิลดเหลือ 1 องศา
ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา มีฝนตก ลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ บางแห่งมีลูกเห็บตกลงมาด้วย ทำให้บ้านเรือนประชาชนหลายหมู่บ้านใน อ.แม่ออน ถูกลมพัดหลังคาเสียหายกว่า 100 หลัง บ้านวาก ต.แม่ออน เสียหาย 57 หลัง บ้านป่าไม้ ต.แม่ออน 58 หลัง ขณะที่สภาพอากาศในช่วงเช้ามีฝนตกปรอยๆ ท้องฟ้ามืดครึ้ม อุณหภูมิในตัวเมืองเชียงใหม่ลดลงเหลือ 14 องศา ดอยอินทนนท์ อุณหภูมิยอดดอยวัดได้ 6 องศา ขณะที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปานวัดได้ 6 องศา
ที่ จ.ตาก เกิดฝนตกหนักตั้งแต่เช้ามืด ทำให้อุณหภูมิลดรวดเดียวกว่า 10 องศา ดอยมูเซอ ต.แม่ท้อ อ.เมืองตาก อุณหภูมิอยู่ที่ 11.8 องศา จากเมื่อวานอุณหภูมิอยู่ที่ 23 องศา ทำให้มีหมอกลงจัดทั่วบริเวณอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช ที่มีนักท่องเที่ยวที่มาค้างคืนโต้ลมหนาวต้องหนีไปนอนในบ้านพักแทน ส่วนชาวบ้านต้องก่อไฟผิงเพื่อคลายหนาว ที่ จ.เพชรบูรณ์ นายซัว เถารักตระกูล อายุ 56 ปี ประธานวิสาหกิจชุมชนภูทับเบิก อ.หล่มเก่า กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาอุณหภูมิยอดภูลดลงเหลือ 0 องศา ทำให้นักท่องเที่ยวทนหนาวไม่ไหวเดินทางกลับนับสิบราย เพราะเครื่องกันหนาวที่เตรียมมาไม่สามารถป้องกันความหนาวยะเยือกได้
ส่วน จ.ชัยนาท ทั่วทุกพื้นที่เผชิญสภาพอากาศหนาวเย็น และลมกระโชกแรง อุณหภูมิอยู่ที่ 13 องศา ต่ำสุดในรอบ 10 ปี ประชาชนต้องสวมเสื้อกันหนาวสร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ปฏิกรณ์ หาญหัตถกิจ พงส.สภ.เมืองชัยนาท ตรวจสอบศพนางจำรัส ยอดเพ็ชร อายุ 72 ปี เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 55 หมู่ 1 ต.ชัยนาท สอบสวนทราบว่าผู้ตายไม่มีโรคประจำตัวแต่ชอบดื่มสุรา คาดว่าช็อกตายเพราะอากาศหนาว อีกราย พ.ต.ท.ปฏิกรณ์ไปตรวจสอบศพนายสัมพันธ์ เพ็งขันธ์ อายุ 68 ปี เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 150 หมู่ 1 ต.บ้านกล้วย สอบสวนทราบว่าผู้ตายป่วยเป็นโรคหัวใจและความดัน คาดว่าสภาพอากาศที่หนาวเย็นทำให้ช็อกเสียชีวิต
ตอนสายวันเดียวกัน ร.ต.อ.ธีระวัฒน์ สีสุก พงส.สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ สอบสวนเหตุมีผู้เสียชีวิตบริเวณท่าน้ำโรงเรียนปากคลองมอญ หมู่ 3 ต.ศีรษะจรเข้น้อย พบศพวิเชียร ลิขิตสุภิณ อายุ 38 ปี นอนตายในเรือหางยาวจอดเทียบท่าน้ำ สอบสวนทราบว่านายวิเชียรป่วยเป็นโรคหัวใจ และพิษสุราเรื้อรัง เกิดช็อกหมดสติญาติรีบนำขึ้นเรือเพื่อไปส่งโรงพยาบาลแต่ได้เสียชีวิตระหว่างทาง อีกราย ร.ต.อ.ธีระวัฒน์ไปสอบสวนเหตุมีผู้เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 99/4 51 ซอย 39 หมู่บ้านชลลดา หมู่ 1 ต.ศีรษะจรเข้น้อย พบศพ พ.อ.อ.ประจวบ ศิลปสถาน อายุ 63 ปี นอนตายอยู่ในบ้าน ญาติแจ้งว่าผู้ตายป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดัน และนิ่ว ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองรายมีโรคประจำตัว ประกอบกับเมื่อคืนอากาศหนาวเย็นอย่างรวดเร็ว ทำให้ปรับตัวไม่ทันเป็นเหตุให้เสียชีวิต
ที่ จ.ตราด นายฐิตนันท์ อุดมสุข หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราด กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดพายุลมแรงต่อเนื่อง จนรุ่งเช้าในหลายพื้นที่ ทำให้ต้นไม้หักโค่น มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.เกาะช้าง อ.บ่อไร่ อ.เขาสมิง และ อ.คลองใหญ่ รวมกว่า 60 หลังคาเรือน ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับความเสียหายกระเบื้องหลังคาบ้านถูกลมพัดหลุดปลิวแตก ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงไปสำรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือแล้ว
ขณะที่หลายจังหวัดภาคใต้จนถึง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เกิดคลื่นลมแรงซัดกระหน่ำชายฝั่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก ที่อ่าวประจวบ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ชาวประมงเรือเล็กและขนาดกลางต้องนำเรือจอดริมชายฝั่งเพื่อหลบความแรงลมและกระแสน้ำ ชาวประมงพื้นบ้านลากเรือไปจอดหลบลมบริเวณข้างเขาล้อมหมวก ภายในกองบิน 5 ต่อมา น.อ.พรประเสริฐ ผ่านภพ รอง ผบ.บน.5 นำกำลังทหารหน่วยอากาศโยธินกว่า 30 นาย ช่วยกันนำเรือเล็ก 50 ลำขึ้นจากทะเลทั้งหมดชาวบ้านหวั่นเกรงเรือจะจมที่ชายฝั่งทะเล จ.สงขลา มีคลื่นลมแรงพัดกระหน่ำกัดเซาะชายฝั่ง สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่บริเวณชายหาดบ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมืองสงขลา ใกล้กับสถานีสูบน้ำเสียที่ 4 ยังไม่มีการก่อสร้างเขื่อนป้องกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง คลื่นสูงซัดชายฝั่งทำให้ต้นสนขนาดใหญ่ล้มระเนระนาดหลายสิบต้น จ.นครศรีธรรมราช ชาวประมงพื้นบ้านช่วยกันเคลื่อนย้ายเรือประมงขนาดเล็กไปไว้ในที่ปลอดภัยหลังถูกกระแสคลื่นซัดสูงกว่า 2 เมตร บ้านเรือนพื้นที่บริเวณชายฝั่ง อ.ปากพนังและ อ.หัวไทร พังเสียหายหลายหลังคาเรือน เจ้าหน้าที่สำนักทางหลวงที่ 16 นครศรีธรรมราช ประกาศปิดถนนเลียบอ่าวไทยช่วงระหว่าง อ.ปากพนังกับ อ.หัวไทรเป็นการชั่วคราว
ที่ จ.สุราษฎร์ธานี เกิดคลื่นลมแรงซัดชายฝั่งทะเลอ่าวไทยในพื้นที่ อ.ดอนสัก ได้รับผลกระทบคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ซัดเข้าพื้นที่บ้านเกาะแรต หมู่ 3 บ้านเรือนเสียหายกว่า 20 หลังคาเรือน เรือโดยสารเฟอร์รี่เส้นทางเกาะสมุย-ดอนสักออกเดินทางจากท่าเทียบเรือหน้าทอนตั้งแต่เวลา 09.00 น. ต้องใช้เวลาเดินทางนานกว่า 5 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ต้องประกาศให้ผู้โดยสารบนเรือกว่า 300 คน สวมเสื้อชูชีพจนเรือเข้าเทียบท่า แต่ยังไม่สามารถนำรถยนต์และสินค้าขึ้นจากเรือได้ ส่วนเที่ยวเดินเรืออื่นๆ ยังต้องงดการเดินเรือเป็นการชั่วคราว ขณะที่สนามบินสุราษฎร์ธานี เครื่องบินต้องดีเลย์รออากาศเปิดใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจนสามารถทำการบินได้ตามปกติ
ด้านนายบรรยง อินทมาตย์ นายก อบต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร กล่าวว่า ในพื้นที่ ต.บางน้ำจืด ชาวบ้าน 6 หมู่บ้าน 250 ครัวเรือน ที่ตั้งอยู่ชายหาดรวมทั้งรีสอร์ต ร้านอาหารถูกคลื่นซัดพังเสียหาย สะพานไม้ที่ท่าเรือไปเกาะพิทักษ์พังเหลือแต่ตัวศาลา นักท่องเที่ยวกว่า 100 คน ไม่สามารถเดินทางออกจากเกาะพิทักษ์ได้เนื่องจากคลื่นสูงลมแรง
นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 26-27 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ รวมถึงมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาเคลื่อนผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศแปรปรวน มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นและยังคงมีอากาศหนาวเย็น โดยภาคเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศาฯ ภาคกลางและภาคตะวันออก อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศา กทม.และปริมณฑล อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศา ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร จากนั้นวันที่ 28-31 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมจะมีกำลังอ่อนลง ส่งผลให้มีฝนลดลง และอุณหภูมิสูงขึ้น แต่บริเวณประเทศไทยตอนบนจะยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า ขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมจะมีกำลังอ่อนลงเช่นกัน ทำให้บริเวณอ่าวไทยมีคลื่นลมอ่อนลงด้วย
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสภาพอากาศที่หนาวผิดฤดูหลายประเทศในเอเชีย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เทศบาลท้องถิ่นในกรุงไทเป ประเทศไต้หวัน เผยแต่ชื่อสกุลว่านายฉาง กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นอุณหภูมิลดฮวบเป็นประวัติการณ์ในรอบ 44 ปีเหลือ 4 องศา บ้านเรือนส่วนใหญ่ไม่มีเครื่องทำความร้อน ทำให้คนแก่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหายใจไม่สะดวก เสียชีวิตมากถึง 90 ราย ขณะที่ประชาชนต่างตื่นเต้นกับหิมะที่ตกในอุทยานแห่งชาติหยางหมิงชาน
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวบนเกาะเจจู ของเกาหลีใต้ เกือบ 90,000 คน ที่ตกค้างอยู่บนเกาะ หลังมีหิมะตกลงมาหนักสุดในรอบ 30 ปี จนอุณหภูมิติดลบ 6.1 องศา และทางกระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ต้องประกาศสั่งปิดสนามบินเจจู ส่งผลให้เที่ยวบินเกือบ 1,100 เที่ยวบินต้องยกเลิกตลอดสุดสัปดาห์นั้น ก็กลับมาให้บริการใหม่เป็นครั้งแรกเมื่อช่วงบ่าย 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่อากาศในกรุงโซล ซึ่งหนาวสุดขั้วในรอบ 15 ปี อุณหภูมิติดลบ 18 องศาเซลเซียส
ขณะที่ทางภาคตะวันตกและภาคกลางของญี่ปุ่นก็มีหิมะตกหนักเป็นประวัติการณ์ รวมเกาะอะมามิ ที่ชาวบ้านเห็นหิมะเป็นครั้งแรกในรอบ 115 ปี กับครั้งแรกที่เมืองนาโก เกาะโอกินาวาในรอบ 50 ปี และเมืองนางาซากิที่มีหิมะตกหนา 17 ซม. อีกทั้งยังเกิดพายุหิมะถล่มหลายแห่งที่ญี่ปุ่น จนยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศกว่า 600 เที่ยว และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย บาดเจ็บกว่า 100 คน หลายพื้นที่ในเมืองกวางโจวและเสิ่นเจิ้นของจีน ก็เกิดปรากฏการณ์หิมะตกครั้งแรกในรอบ 60 ปี นักท่องเที่ยวกว่า 10,000 คน ต้องตกค้างเพราะเที่ยวบินที่สนามบินคุนมิง มณฑลยูนนาน ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนล่าช้า และมีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 4 ราย อุณหภูมิติดลบ 12 องศาเซลเซียส ทั้งมณฑลเจ้อเจียง มณฑลฟูเจี้ยนและมณฑลกวางตุ้ง
ที่มา ; เว็บ นสพ.ไทยรัฐ
ที่มา ; เว็บ นสพ.ไทยรัฐ
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมสอบครูผู้ช่วย
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมสอบครูผู้ช่วย
ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น