หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567
พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

คลิ๊ก "สมัครพัฒนาความรู้สู่ผู้บริหาร / ครูผู้ช่วย

คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ครูผู้ช่วย
คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ผู้บริหาร

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ติวสอบดอทคอม (เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์ สอบครู ผู้บริหาร บุคลากร)

วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2559

สานพลังประชารัฐ "รัฐ-เอกชน-ประชาสังคม" ร่วมยกระดับคุณภาพวิชาชีพอาชีวศึกษา

เรื่องใหม่น่าสนใจ  (ทั้งหมด ที่ )


(เนื้อหา-ข้อสอบ 1,000 ชุด หมื่นข้อ ภาค กข+ 40 วิชาเอก) ที่


ติวสอบดอทคอม คลิ๊ก www.tuewsob.com 



-คู่มือ 4 ชุด นโยบาย บริบริหาร ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้

-เกณฑ์ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ โดย สมศ.

- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558  


              ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษาชุดใหม่  โดย  อ.นิกร

 เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่

 ติวสอบ บน ยูทูป


 คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้   
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา 
เตรียมสอบครูผู้ช่วย


ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 34/2559สานพลังประชารัฐ "รัฐ-เอกชน-ประชาสังคม"ร่วมยกระดับคุณภาพวิชาชีพอาชีวศึกษา

 โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ - ภาครัฐ-ภาคเอกชน-ภาคประชาสังคม ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "สานพลังประชารัฐ ยกระดับคุณภาพวิชาชีพอาชีวศึกษา" (Competitive Workforce) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันทัดเทียมเวทีโลก ตั้งเป้าเห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 2 ปี

 
 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม 2559 ที่ห้องฉัตรบอลลูม โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ, นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าทีมภาครัฐ, พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ  "สานพลังประชารัฐ ยกระดับคุณภาพวิชาชีพอาชีวศึกษา : Competitive Workforce" กับภาคเอกชน 13 องค์กรชั้นนำระดับประเทศ นำโดยนายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือเอสซีจี ในฐานะหัวหน้าทีมภาคเอกชน รวมทั้ง พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ประธานกรรมการบริหารสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ตัวแทนภาคประชาสังคมในการพัฒนาทุนมนุษย์
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือของทั้ง 3 ภาคส่วน ซึ่งทำหน้าที่ร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายประชารัฐ โดยประชารัฐเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงประเทศไทยได้ และนโยบายนี้ไม่ได้ส่งผลให้เอกชนได้แรงงานที่ดีเท่านั้น แต่จะได้คนดีมาทำงานให้ประเทศชาติด้วย ซึ่งถือเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่และเป็นการสร้างคลื่นกระทบที่รุนแรงต่อประเทศ เพราะที่ผ่านมาพลังที่ซ่อนอยู่ของภาคเอกชนยังไม่เคยถูกดึงมาใช้ให้เกิดประโยชน์
การศึกษาเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของประเทศ เพราะประเทศจะก้าวต่อไปข้างหน้าไม่ได้หากไม่มีคนที่มีความสามารถ ซึ่งอาชีวศึกษาไม่ได้มีความสำคัญน้อยกว่าการศึกษาในระดับปริญญาตรี-โท-เอก ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ วิชาชีพเป็นประเด็นสำคัญ ประเทศชาติจะเคลื่อนไปในทิศทางใดต้องอาศัยกำลังคนด้านอาชีวศึกษาทั้งสิ้น แต่ในระบบการศึกษาของไทยมีบางอย่างที่บิดเบี้ยวไป คนที่เข้าเรียนอาชีวศึกษาถูกมองว่าสู้คนที่เรียนระดับปริญญาตรีไม่ได้ เข้ามาแล้วเป็นช่างกลจึงไม่มีใครอยากเข้า หรือเข้ามาสู่ในระบบแล้วก็ไม่ได้มีความหวังว่าเรียนจบแล้วจะไปประกอบอาชีพอะไร เหมือนคนที่ไม่มีที่มาที่ไป อนาคตมองไม่เห็น ด้อยค่าในสังคม ในระบบส่วนนี้มีทั้งเอกชน กระทรวงต่างๆ มหาวิทยาลัย และโรงเรียน ต่างคนต่างทำของตัวเอง ไม่ได้เชื่อมโยงติดต่อกัน ไม่ได้หารือร่วมกัน แล้วจะผลิตกำลังคนออกมาได้อย่างไร
ดังนั้น การที่ทั้ง 3 ภาคส่วนได้มาร่วมมือกัน จะทำให้เกิดความเชื่อมโยง ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจะเข้าใจความต้องการของกันและกันมากขึ้นทำให้โครงการนี้สำเร็จได้
นอกจากนี้ ต้องการให้ผู้เรียนอาชีวศึกษามีทางเลือกที่จะเป็นผู้ประกอบการด้วยตนเอง อีกทั้งต้องให้ความสำคัญต่อการฝึกปฏิบัติงานของผู้เรียน เพราะผู้เรียนด้านอาชีวะหรือวิศวกรนั้น จะไม่มีเครื่องมือในการฝึกปฏิบัติไม่ได้ จึงต้องให้แต่ละสายอาชีพมาฝึกปฏิบัติงาน เพื่อสร้างจินตนาการและทักษะที่แท้จริง
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ในฐานะผู้บริหาร ไม่จำเป็นต้องตามกระแสไปทุกเรื่อง  แต่ต้องรับฟังกระแสว่ากระแสคิดว่าอะไร และต้องรู้ว่าเราจะทำอะไรที่มีประโยชน์ต่อชาติ และเดินตามเส้นทางนั้นด้วยการรับฟัง เพราะถ้าหากเราตามกระแสอย่างเดียว จะไม่มีวิสัยทัศน์ อีกทั้งเราต้องทำให้ทิศทางใหม่ๆ เกิดขึ้น สิ่งสำคัญของการพัฒนาประเทศของเรา คือไม่ใช่เพียงแค่ก้าวตามโลก แต่ต้องก้าวข้ามโลก และการดักหน้าโลกถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่ใช่วิ่งตามโลก

 พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าทีมภาครัฐ กล่าวว่า ที่ผ่านมาภาครัฐได้มีการหารือกับภาคเอกชนกันอย่างใกล้ชิด ในรูปแบบคณะทำงานภาครัฐและเอกชนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ (Public-Private Steering Committee) หรือประชารัฐ ชุดที่ 4 เพื่อให้ได้แนวทางที่จะเดินไปด้วยกันตามนโยบายสานพลังประชารัฐของรัฐบาล ซึ่งต้องใช้คำว่า "ต้องกระโดดใส่" เพราะการที่ภาคเอกชนชั้นนำให้การสนับสนุนภาครัฐอย่างดีเช่นนี้ ยิ่งจะทำให้ภาคการศึกษาได้ประโยชน์อย่างมาก
 ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันกำหนดวัตถุประสงค์ของคณะกรรมการชุดนี้ เพื่อยกระดับคุณภาพวิชาชีพเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยมุ่งเน้นผลประโยชน์ของชาติเป็นหลักพร้อมทั้งได้กำหนดภารกิจหลักที่ต้องร่วมกันดำเนินการ 5 ประการ ได้แก่
1) การสร้างค่านิยมหรือแรงจูงใจให้เด็กมาเรียนอาชีวะมากขึ้น (Inspiration) ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเคยร่วมดำเนินการมาแล้ว แต่ยังไม่ทัน จึงต้องเร่งดำเนินการให้เร็วขึ้น โดยคาดหวังว่าภาคเอกชนจะมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยสร้างค่านิยมการเรียนอาชีวศึกษาให้เห็นผลมากขึ้น
2) การผลิตผู้เรียนอาชีวะในสาขาที่ขาดแคลนให้มีปริมาณเพียงพอต่อการพัฒนาประเทศ (Quantity) การผลิตกำลังคนด้านอาชีวศึกษาในปัจจุบันยังไม่เพียงพอ จึงต้องร่วมมือกับภาคเอกชนซึ่งเป็นผู้ใช้กำลังคนดังกล่าว ว่าต้องการจำนวนเท่าไร เพื่อผลิตตามความเร่งด่วนใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ (Clustersที่เป็นความต้องการของภาคอุตสาหกรรม
3) การสร้างคุณภาพให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนอาชีวะ (Quality) เพื่อให้เป็นที่ยอมรับตรงตามความต้องการของตลาด โดยมุ่งเน้นการพัฒนาให้เป็นคนเก่งและคนดี เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆ เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วมาก จนทำให้สถานศึกษาอาชีวะตามไม่ทัน จึงต้องร่วมมือกันจัดทำและพัฒนาหลักสูตร เพื่อให้เกิดแนวทางในการจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องและเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับการพัฒนาธุรกิจของภาคเอกชน
4) การสร้างอาชีวะให้มีความเป็นเลิศในแต่ละด้าน (Excellency) โดยพัฒนาแบบครบวงจร ทั้งในเรื่องหลักสูตร ครูผู้สอน อุปกรณ์เครื่องมือ สื่อการเรียนการสอน เทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งมีแนวทางดำเนินการ 2 รูปแบบ คือ การพัฒนาจากศักยภาพของแต่ละสถาบันอาชีวศึกษา ด้วยการกำหนดความเป็นเลิศเฉพาะด้านให้กับสถานศึกษาอาชีวะนั้นๆ และอีกรูปแบบหนึ่งคือการลงทุนร่วมกับภาคเอกชนตามสาขาที่ภาคเอกชนมีความเชี่ยวชาญ เพื่อที่จะผลิตคนได้ตรงกับความต้องการของเอกชนได้ทันที
5) ให้อาชีวะมีความเป็นสากลและมีความร่วมมือกับต่างประเทศมากขึ้น (Global Standard) โดยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้มาตรฐานสากล มาประยุกต์ใช้กับหลักสูตรสายอาชีพอย่างเหมาะสม ซึ่งถึงแม้ว่าศักยภาพของอาชีวศึกษาของไทยไม่แพ้ใคร แต่จำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพให้ทันกับความก้าวหน้าของเศรษฐกิจโลก ในอดีตมีความร่วมมือจัดตั้ง "โรงเรียนเทคนิคไทย-เยอรมัน" ซึ่งต่อมาคือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และในอนาคตอาจมีอาชีวะไทย-จีน, อาชีวะไทย-ญี่ปุ่น ฯลฯ
รมว.ศึกษาธิการ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึง "บทบาทของภาครัฐในการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายประชารัฐ ด้านการยกระดับคุณภาพวิชาชีพ" ดังนี้
- ประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น เพื่อขอข้อมูลสถิติ รวมทั้งการกำหนดและประเมินมาตรฐานฝีมือแรงงาน
- สนับสนุนนโยบาย รวมทั้งปรับกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและสิทธิประโยชน์ให้เอื้อและอำนวยความสะดวกในการขับเคลื่อนการดำเนินงานในการยกระดับคุณภาพวิชาชีพ
- จัดสรรทรัพยากรและงบประมาณการดำเนินการ โดยจัดสรรงบประมาณให้ตรงจุด ตรงประเด็น เพื่อผลิตและพัฒนาคุณภาพการศึกษาสายวิชาชีพในสาขาที่ขาดแคลนให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาของประเทศ
- มีความคิดพื้นฐาน (Mindset) ที่สอดคล้องกับการยกระดับคุณภาพวิชาชีพอาชีวศึกษา ด้วยการกำหนดแผนงาน (Blueprint) ที่ชัดเจน, ร่วมมือกับภาคเอกชนจัดการศึกษาทวิภาคี และพิจารณาค่าตอบแทนตามสมรรถนะวิชาชีพ
- ให้ความร่วมมือและสนับสนุนภาคเอกชน ในการร่วมดำเนินการยกระดับคุณภาพวิชาชีพ
ทั้งนี้ ความยั่งยืนของการดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายสานพลังประชารัฐด้านการยกระดับคุณภาพวิชาชีพมีกำหนดระยะเวลาเริ่มต้น 2 ปี และจะมีการติดตามและประเมินผลเป็นระยะเพื่อพัฒนาการดำเนินงาน และเมื่อครบ 2 ปีแล้วจะมีการประเมินผลในภาพรวม หากผลการดำเนินงานมีประสิทธิภาพก็จะกำหนดแผนการขับเคลื่อนในระยะต่อไป

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่เอสซีจี ในฐานะหัวหน้าทีมภาคเอกชน กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ เป็นการประกาศเจตนารมณ์ของภาคเอกชนในการทำงานเพื่อสังคมอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญด้านคุณภาพวิชาชีพอาชีวศึกษาของบุคลากรในอนาคต ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการทำงานในทุกภาคส่วนให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญคือ ให้คำแนะนำ เสนอแนะโครงการและวิธีการ รวมทั้งยกระดับคุณภาพวิชาชีพอาชีวศึกษา โดยการลงมือดำเนินโครงการและเป็นกระบอกเสียงให้สังคมได้รับรู้ เข้าใจ และเห็นความสำคัญของอาชีวศึกษา ตลอดจนส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินโครงการต่างๆ ตามแนวทางของภาครัฐ
โดยแนวทางการขับเคลื่อนการยกระดับวิชาชีพอาชีวศึกษา แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ
การขับเคลื่อนระยะแรก (Quick Win) จะใช้เวลาดำเนินการ 6 เดือนในการดำเนินโครงการ ดังนี้
1) Re-Branding คือ การสร้างแรงจูงใจผ่านภาพลักษณ์ที่ดีให้กับนักเรียน และอาจารย์ในสายอาชีวศึกษา โดยสื่อสารให้เห็นถึงโอกาสความก้าวหน้าในวิชาชีพ รวมทั้งผลตอบแทนที่ดีตามระดับทักษะความสามารถที่ได้รับการประเมินตามมาตรฐาน อีกทั้งต้องสร้างความภาคภูมิใจให้บุคลากรสายอาชีวศึกษาภาคภูมิใจที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ
2) การสร้าง Excellence Model Schools ซึ่งจะพิจารณาคัดเลือกสถานศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญ มีรูปแบบ (Model) การเรียนการสอนที่เหมาะสม และสามารถเป็นพี่เลี้ยงสถานศึกษาอาชีวศึกษาได้ รวมทั้งปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนให้ภาคเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วม นอกจากนี้ จะสนับสนุนให้นักเรียนนำความรู้ความสามารถในการเรียนมาทำประโยชน์แก่ชุมชนและสังคมผ่านโครงการจิตอาสาต่างๆ
3) ร่วมกันพัฒนาฐานข้อมูล (Database) ทั้งในส่วนอุปสงค์ของความต้องการแรงงานวิชาชีพ (Demand) และอุปทานของแรงงานวิชาชีพที่เรียนจบมา (Supply) ของภาพรวมทั้งประเทศ เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ โดยมุ่งเน้นความเร่งด่วนใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมใหม่
การขับเคลื่อนระยะที่สอง (Medium & Long Term) คณะทำงานมีแผนงานดังนี้
1) กำหนดมาตรฐานทักษะวิชาชีพ การเรียนการสอน การจ้างงาน ค่าตอบแทน ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความรู้ ความสามารถ และทักษะฝีมือ
2) แก้ไขกฎหมาย เพื่อให้ประโยชน์ต่อภาพรวมการยกระดับคุณภาพวิชาชีพอาชีวศึกษา
3) ส่งเสริมการยกระดับคุณภาพวิชาชีพอาชีวศึกษาให้ยั่งยืน
4) ผลักดันให้มีหน่วยงานที่รวบรวม Database ของวิชาชีพอาชีวศึกษาให้เป็นรูปธรรม
5) พัฒนาหลักสูตรและครูผู้สอน โดยให้มีสถาบันพัฒนาครูระดับอาชีวศึกษา


พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ประธานกรรมการบริหาร สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพฯ ในฐานะตัวแทนภาคประชาสังคมในการพัฒนาทุนมนุษย์ กล่าวว่า ทุกฝ่ายไม่ว่าจะอยู่ใน Sector ใด ต้องช่วยกันพัฒนาการศึกษาเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้ก้าวต่อไปข้างหน้า ซึ่งการพัฒนาอาชีวศึกษาเป็นการเริ่มต้นที่ถูกต้องที่สุด (Get to the Point) เนื่องจากเป็นแรงงานที่สำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาและการแข่งขันของประเทศ ซึ่งนโยบายรัฐบาลก็ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรด้านอาชีวศึกษาเป็นอย่างมาก ความมุ่งมั่นของภาครัฐและภาคเอกชนที่จะทำงานร่วมกันจึงถือเป็นปัจจัยสำคัญ (Key Factors) ที่นำไปสู่ความสำเร็จ
ในส่วนของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพฯ มีหน้าที่สำคัญในการสร้างระบบคุณวุฒิวิชาชีพให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งในเรื่องระบบคุณวุฒิวิชาชีพนี้ ประเทศไทยอาจจะยังตามไม่ทันประเทศอื่นอยู่บ้าง จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องกำหนดให้มีมาตรฐานวิชาชีพและระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของการศึกษาเพียงอย่างเดียว แต่รวมทั้งเรื่องของสมรรถนะ ความชำนาญ ความเชี่ยวชาญของบุคคลที่ผ่านการทดสอบตามกรอบคุณวุฒิวิชาชีพ จะทำให้ผู้จ้างงานสามารถประเมินและมอบหมายงาน รวมทั้งค่าตอบแทนได้อย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพฯ ได้พัฒนามาตรฐานวิชาชีพขึ้นมาจำนวนมาก เพื่อกำหนดระดับความเชี่ยวชาญของวิชาชีพต่างๆ เพื่อให้ภาคเอกชนสามารถนำข้อมูลส่วนนี้ไปใช้กำหนดตำแหน่งงานของผู้สมัครงานได้ อีกทั้งได้ให้ความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษามาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้มีโครงการนำร่องการพัฒนาให้สอดคล้องกับคุณวุฒิวิชาชีพ โดยมีเป้าหมายในการพัฒนากรอบคุณวุฒิวิชาชีพให้ครอบคลุมทุกสายอาชีพ พร้อมทั้งให้การสนับสนุนการดำเนินงานพัฒนาวิชาชีพอาชีวศึกษาเพื่อผลิตกำลังคนที่มีประสิทธิภาพ และจากความร่วมมือของทุกฝ่ายเช่นนี้ ยิ่งจะทำให้นโยบายสานพลังประชารัฐ ยกระดับคุณภาพวิชาชีพอาชีวศึกษา จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายอย่างแน่นอน


ถ่ายภาพ : ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี

ส่วนหนึ่งของความร่วมมือจากภาคเอกชน 13 แห่ง
ต่อการยกระดับคุณภาพวิชาชีพอาชีวศึกษา
เอสซีจี :
- โครงการทวิภาคี (Home Solution Career Choice) โดยในระหว่างที่เรียนจะให้นักศึกษาเข้าฝึกงานในสถานประกอบการ โดยได้รับทุนการศึกษาในระดับ ปวส. พร้อมเงินช่วยเหลือด้านต่างๆ เช่น ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าเบี้ยเลี้ยงในช่วงฝึกปฏิบัติงาน เป็นต้น
- โครงการ SCG Model School นักศึกษาจะได้เรียนในสถานศึกษา 3 ภาคเรียน และจะฝึกงานในสถานประกอบการอีก 1 ภาคเรียน โดยจะมีพี่เลี้ยงและครูฝึกให้ตามสมรรถนะของสาขางาน พร้อมทั้งได้รับทุนการศึกษา และเบี้ยเลี้ยงในช่วงฝึกปฏิบัติงาน
- โครงการพัฒนาวุฒิ ปวส. ด้านเทคโนโลยีเครื่องกลและการผลิต เป็นโครงการเพื่อพัฒนาพนักงานวุฒิ ปวส. โดยพนักงานจะใช้เวลาเรียนตามหลักสูตร 2 ปี ทุกวันศุกร์บ่ายและวันเสาร์ทั้งวัน และจะได้รับทุนการศึกษาตลอดหลักสูตร
- สถาบันนายช่างดี เป็นสถาบันฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพของช่าง โดยจัดฝึกอบรมและฝึกปฏิบัติที่ศูนย์ฝึกอบรม 7 ศูนย์, จัดอบรมที่สถาบันการศึกษา และหน่วยสาธิตเคลื่อนที่โดยมีรถ Mobile Unit
- โครงการฝีมือชน คนสร้างชาติ โดยมูลนิธิเอสซีจี แบ่งการดำเนินโครงการออกเป็น 2 ส่วน คือ การสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่จบการศึกษาในระดับชั้น ม.3 และสามารถศึกษาต่อในระดับ ปวช. ในสาขาช่างอุตสาหกรรมและสาขาบริการ โดยเป็นทุนให้เปล่า อีกทั้งสามารถขอทุนต่อเนื่องจนสำเร็จการศึกษาระดับ ปวส. และอีกส่วนหนึ่งคือการรณรงค์เพื่อปรับภาพลักษณ์ผ่านกระบวนการสื่อสาร ด้วยการให้ความรู้ ข้อมูลข่าวสารด้านดีของการเรียนสายอาชีวะ พร้อมทั้งส่งเสริมและเผยแพร่ภาพความสามารถของนักเรียนอาชีวะ เพื่อยกย่องนักเรียนอาชีวะให้มีศักดิ์ศรี
การบินกรุงเทพ (บางกอกแอร์เวย์) :
- เน้นจัดการเรียนการสอนระบบทวิภาคี โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสายอาชีวศึกษาได้เข้ามาฝึกงานในส่วนต่างๆ ของบริษัท ตามความถนัด อาทิ ช่างซ่อมบำรุงอากาศยาน, ต้อนรับภาคพื้นดิน, บัญชีและการเงิน เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทจะช่วยประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานของโครงการให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ เข้าใจ และเห็นความสำคัญของการพัฒนากำลังคนด้านอาชีวศึกษา ซึ่งเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ
ช.การช่าง :
- โครงการนักศึกษาฝึกงาน จะรับนักศึกษาฝึกงานจากสถาบันอาชีวศึกษา เพื่อฝึกงานในแผนกต่างๆ ของบริษัทอย่างต่อเนื่องทุกปี
- โครงการ ช.ชวนเยี่ยมชมโครงการ โดยจะให้นักศึกษาอาชีวะ เข้าเยี่ยมชมสถานที่ก่อสร้างจริง และมีวิศวกรบรรยายถึงการทำงานของแต่ละโครงการ โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน
- ช.ช่วยซ่อมสถานศึกษา โดยร่วมกับสถาบันอาชีวศึกษาในพื้นที่ต่างๆ ช่วยกันซ่อมแซมสถานศึกษา โดยมีวิศวกรผู้ชำนาญการและเจ้าหน้าที่ของบริษัทช่วยให้ความรู้และเป็นพี่เลี้ยงแก่นักศึกษาอาชีวะ โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน
- Academy Engineer “เด็กช่างฝัน” แบ่งเป็น Academy Engineer ทั้งในระดับมัธยมศึกษา และระดับอาชีวศึกษา เพื่อให้ความรู้ด้านวิศวกรรม เทคโนโลยี และเทคนิคการก่อสร้างและสร้างแรงบันดาลใจและแนวทางการศึกษาต่อ ให้ความรู้และเทคโนโลยีเฉพาะด้าน เยี่ยมชมหน้างานโครงการ ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้เรียนด้านอาชีพ ซึ่งโครงการนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินการ
ซัมมิท โอโต บอดี้ อินดัสตรี :

- โครงการทวิภาคี โดยรับนักศึกษาฝึกงานในระดับ ปวช. และ ปวส. พร้อมทั้งมีเบี้ยเลี้ยงและสวัสดิการต่างๆ ให้นักศึกษาในระหว่างการฝึกงาน และเมื่อจบการศึกษาแล้วจะพิจารณาเป็นกรณีพิเศษในการบรรจุให้เป็นพนักงานประจำของบริษัท
- โครงการโรงเรียนในโรงงาน เพื่อรับนักศึกษาที่จบ ปวช. เข้ามาเรียนในโรงงานวุฒิ ปวส. จำนวน 2 ปี โดยจะเข้าฝึกงานวันจันทร์-ศุกร์ และเรียนวิชาการในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งจะมีอาจารย์ของวิทยาลัยเข้ามาสอนรายวิชาบังคับ และเมื่อจบการศึกษาแล้วจะทำการบรรจุเป็นพนักงานประจำของบริษัท
- โครงการกองทุนการศึกษา ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยได้พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์จัดตั้งกองทุนการศึกษา ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำผู้เรียนอาชีวศึกษาจากสถานศึกษาภาครัฐและเอกชนระดับ ปวช. ปี 2 ที่ผ่านการฝึกวินัยจากกองทัพแล้วไปเข้าฝึกงานในสถานประกอบการเป็นเวลา 1 ปี โดยมีเป้าหมาย สร้างคนดี มีสัมมาชีพ
- โครงการเพื่อพัฒนาศักยภาพครูวิทยาลัยเทคนิค ร่วมผลิตกำลังแรงงานในภาคอุตสาหกรรมให้กับนักศึกษาในวิทยาลัยเทคนิคจำนวน 15 วิทยาลัย
- การจัดงานนิทรรศการอาชีวศึกษาทวิภาคีไทย เพื่อแสดงศักยภาพของผู้เรียนอาชีวศึกษา และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การจัดการศึกษาระบบทวิภาคี ส่งเสริมให้มีผู้เข้าเรียนอาชีวศึกษามากขึ้น
ซีพี ออลล์ :
- จัดการศึกษาระบบทวิภาคี โดยร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสถานประกอบการหรือโรงงานอุตสาหกรรม โดยกำหนดให้นักเรียนเรียนภาคทฤษฎีที่สถานศึกษาไม่เกินสัปดาห์ละ 2 วัน และฝึกภาคปฏิบัติที่สถานประกอบการไม่น้อยกว่า 3 วัน ตลอดระยะเวลาเรียนจนครบหลักสูตร เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจะได้รับใบประกาศนียบัตรตามความสามารถของผู้เรียน โดยปัจจุบันซีพี ออลล์ ได้จัดการศึกษาทวิภาคีร่วมกับสถานศึกษาอาชีวะ 45 แห่ง
มิตรผล :
- โครงการพัฒนาหลักสูตรทวิภาคี เพื่อผลิตบุคลากรสายอาชีพในอุตสาหกรรมน้ำตาลและชีวพลังงาน โดยรับนักศึกษาชั้น ปวส. ใช้เวลาเรียน 2 ปี มีเนื้อหาและหลักสูตรการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับการพัฒนาเส้นทางอาชีพในกลุ่มมิตรผล ทั้งภาคทฤษฎีและฝึกปฏิบัติจริงในโรงงาน ซึ่งนักศึกษาจะได้รับทุนการศึกษาและเบี้ยเลี้ยงระหว่างฝึกปฏิบัติงาน และมีโอกาสเข้าทำงานกับกลุ่มมิตรผล ปัจจุบันมีสถาบันอาชีวศึกษาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตั้งโรงงานเข้าร่วมโครงการแล้ว 8 แห่ง และมีแนวโน้มจะเพิ่มพื้นที่และจำนวนสถานศึกษาในอนาคต เช่น จังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดใกล้เคียงกับพื้นที่ตั้งกลุ่มมิตรผล
เซ็นทรัล กรุ๊ป :
- โครงการทุนทวิภาคีเซ็นทรัล ระดับ ปวส. (CG DVE Scholarship) โดยเปิดรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีสุดท้ายในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และ ปวช. เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.50 เข้าเรียนในระดับ ปวส. โดยมีหลักสูตรการเรียนการสอน 3 รูปแบบ คือ เรียนผ่านระบบ Online หรือ E-Learning, เรียน 1 ปีและฝึกประสบการณ์ 1 ปี และการเรียนควบคู่กับฝึกประสบการณ์ 5:1:1 (ฝึกประสบการณ์ 5 วัน เรียนในสถานศึกษา 1 วัน และหยุด 1 วัน) ซึ่งทั้ง 3 รูปแบบได้รับทุนการศึกษาตลอดหลักสูตร 100% และเบี้ยเลี้ยงเพิ่มเติมประมาณ 7,500-10,500 บาทต่อเดือน รวมทั้งเบี้ยเลี้ยงพิเศษ คอมมิชชั่น ค่านั่งเครื่อง ค่าที่พักอาศัย 2,500 บาทม/เดือน เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกประสบการณ์ทำงานควบคู่กันไป และผู้เรียนจะได้เรียนรู้ในสายงานที่ตนเองสนใจ เพื่อเตรียมความพร้อมในการประกอบอาชีพในอนาคตได้ฮอนด้า ออโตโมบิล :
- โครงการความร่วมมือการจัดการเรียนการสอนระบบทวิภาคี โดยร่วมมือกับ สอศ. ส่งเสริมการเรียนรู้ทักษะวิชาชีพเฉพาะทางด้านยานยนต์ และสร้างนิสัยอุตสาหกรรมให้กับนักศึกษาอาชีวศึกษาจากวิทยาลัย 21 แห่งทั่วประเทศ ผ่านหลักสูตรการเรียนการสอนแบบบูรณาการ โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการ ควบคู่กับการเรียนเนื้อหาตามรายวิชาอย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับแรงงานไทย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับตลาดแรงงานระดับโลกได้อย่างยั่งยืน

ที่มา ; เว็บ  สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ


วันที่ 17 พฤศจิกายน คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
1.เห็นชอบข้อเสนอ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต (New Engine of Growth)   จำนวน 10 คลัสเตอร์ และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนไปพิจารณาศึกษาวิเคราะห์ในรายละเอียดเพื่อจัดทำนโยบายส่งเสริมการลงทุน ต่อไป
2 เห็นชอบในหลักการมาตรการที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นมาตรการทางด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษีและการสนับสนุนเงินทุน   และมอบหมายให้กระทรวงการคลังไปพิจารณามาตรการสนับสนุนการพัฒนาคลัสเตอร์ต่อไป 
3.เห็นชอบในหลักการมาตรการที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่น ๆ  ซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้สิทธิประโยชน์การพัฒนาบุคลากรและเทคโนโลยี การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน  และการแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณามาตรการสนับสนุนการพัฒนาคลัสเตอร์ต่อไป 
4.เห็นชอบในหลักการกลไกการผลักดันการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย  และมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมไปพิจารณารายละเอียดของร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษให้มีความสอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการฯ ที่จะแต่งตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษ ต่อไป
        สาระสำคัญของเรื่อง
        ประเทศไทยสามารถผลักดันการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (S-curve)  ได้ใน 2 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบที่ 1 คือ First s-curve ซึ่งเป็นการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีอยู่แล้วในประเทศ  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปัจจัยผลิตโดยการลงทุนชนิดนี้จะส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะสั้นและระยะกลาง แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มอุตสาหกรรมในปัจจุบันนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนา S-curve ในรูปแบบที่ 2 คือ New S-curve  ควบคู่ไปด้วย ซึ่งเป็นรูปแบบของการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่  เพื่อเปลี่ยนรูปแบบสินค้าและเทคโนโลยี  โดยอุตสาหกรรมใหม่หรืออุตสาหกรรมอนาคตเหล่านี้จะเป็นกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (New Growth Engines) ของประเทศ  ซึ่งการต่อยอดอุตสาหกรรมเดิมจะสามารถเพิ่มรายได้ของประชากรได้ประมาณ ร้อยละ 70 จากเป้าหมาย ส่วนอีกร้อยละ 30 จะมาจากอุตสาหกรรมใหม่
1.    การกำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ
1.1    การต่อยอด 5 อุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพ (First S-curve) ประกอบด้วย 
1)    อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (Next – Generation Automotive)  
2)    อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ (Smart Electronics) 
3)    อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Affluent, Medical and Wellness Tourism)  
4)    การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ (Agriculture and Biotechnolgy)  
5)    อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร (Food for the Future)

1.2    การเติม 5 อุตสาหกรรมอนาคต (New S-curve)  ประกอบด้วย
1)    อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ (Robotics) 
2)    อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ (Aviation and Logistics)  
3)    อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ (Biofuels and Biochemicals) 
4)    อุตสาหกรรมดิจิตอล (Digital) 
5)    อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร (Medical Hub) 
ทั้งนี้ 10 อุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและเป็นที่สนใจของ นักลงทุนทั่วโลก ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจของไทยในอนาคต โดยขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนอยู่ระหว่างการจัดทำมาตรการส่งเสริมการลงทุนให้สอดคล้องกับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายดังกล่าวข้างต้น
2.    มาตรการที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลัง  เป็นมาตรการทางด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษีและการสนับสนุนเงินทุน ประกอบด้วย 1) มาตรการสนับสนุนในภาพรวม 2) มาตรการสนับสนุนคลัสเตอร์ยานยนต์สมัยใหม่ (Next – Generation Automotive)   3) มาตรการสนับสนุนคลัสเตอร์การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ  (Agriculture and Biotechnolgy)  4) มาตรการสนับสนุนคลัสเตอร์หุ่นยนต์ (Robotics) และ  5) มาตรการสนับสนุนคลัสเตอร์การบินและโลจิสติกส์ (Aviation and Logistics)
ที่มา ; isranews.org

 คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้   

เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา 
เตรียมสอบครูผู้ช่วย

ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา  ที่ 

ติวสอบดอทคอม "  โดย อ.นิกร 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค
พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

ห้องสนทนา บน facebook

ห้องสนทนา บน facebook
ห้องสนทนาติวสอบดอทคอม

ข้อสอบออนไลน์ "ติวสอบดอทคอม" ชุดใหม่

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค

แจ้งย้ายเว็บไปที่ www.tuewsob.com

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค (ปรับปรุงใหม่)

รวม เล่ม + แผ่นพับ + ชีตช่วยจำ + DVD เนื้อหา + เสียงบรรยาย + EMS = 800 บาท
สนใจ คู่มือ ภาค ก ข ค ผู้บริหาร คลิ๊กเลย

สั่งจอง... โอนเงินเข้าชื่อบัญชี นายนิกร เพ็งลี ธนาคารกรุงไทย สาขาจอหอ บัญชีเลขที่ 341-1-38912-5 โอนเงินแล้วกรุณาโทรแจ้ง
0872494141 หรือ 0839660030

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร
คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

ติวสอบออนไลน์ บน facebook

ติวสอบออนไลน์ บน facebook
ติวสอบออนไลน์ บน facebook

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม
คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม
ติวสอบดอทคอม