เรื่องใหม่น่าสนใจ
-นโยบาย ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
http://tuewsob.blogspot.com/2015/09/blog-post_93.html
-เขตที่เปิดสอบ-เกณฑ์สอบ-กำหนดการสอบครูผู้ช่วย รอบ 2 / 2558
-เกณฑ์การย้ายครู พ.ศ.2558 http://www.otepc.go.th/images/document/2558/v16-2558.pdf
-รัฐธรรมนูญ 2557 แก้ไข ครั้งที่ 1 พ.ศ.2558
- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558
http://tuewsob.blogspot.com/2015/05/4-10-1-57.html
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ โดย อ.นิกร
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ โดย อ.นิกร
เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
เครื่องบิน 352 ตัน หายไปอย่างไร ย้อนรอย BOEING 777-200ER MH370 ขนลุกกว่าที่คิด
เศษซากชิ้นส่วนโลหะอะลูมินั่มอัลลอยขนาดความยาวประมาณ 2 เมตร เป็นส่วนหนึ่งของปีกเครื่องบิน Boeing 777 ที่ถูกคลื่นซัดมาเกยชายหาดของเกาะเรอูนียง ดินแดนของฝรั่งเศสในมหาสมุทรอินเดียนอกชายฝั่งของเกาะมาดากัสการ์ ชิ้นส่วนปีกของ Boeing 777 ดังกล่าวมีผู้พบเห็นถูกคลื่นซัดลอยมาอยู่บนหาดทราย ผู้ที่พบเจอได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจบนเกาะ หลังจากนั้นหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางการบินของฝรั่งเศสได้เดินทางเข้าตรวจสอบทันที การค้นพบชิ้นส่วนเครื่องบิน Boeing 777 เพิ่มความหวังว่าอาจเป็นซากชิ้นส่วนของเครื่องบินโดยสารระยะไกลแบบสองเครื่องยนต์ Boeing 777 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH 370 ที่หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยพร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือรวม 239 ชีวิต นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญกล่าวถึงความเป็นไปได้ว่ากระแสน้ำของมหาสมุทรอินเดียสามารถพัดพาชิ้นส่วนซากเครื่องบินมาถึงเกาะที่อยู่ห่างจากพื้นที่ที่เชื่อว่าเป็นจุดตกของ MH370 ไกลสุดกู่ถึง 4,000 กิโลเมตร ชิ้นส่วน flaperon ได้ถูกส่งไปที่ห้องแล็บของกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศสในเมืองตูลูส เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญได้ดำเนินการตรวจสอบขั้นสูงซึ่งเริ่มขึ้นในวันที่ 5 สิงหาคม 2558 โดยมีเจ้าหน้าที่ของ Boeing ผู้เชี่ยวชาญจากออสเตรเลีย และตัวแทนจากจีน ประเทศซึ่งมีเหยื่อประสบเหตุมากที่สุดได้รับเชิญให้เข้าร่วมด้วย
ฌอง-ปอล โทรอาเด็ก อดีตผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนของฝรั่งเศส เปิดเผยว่า การวิเคราะห์พุ่งไปที่ 2 ประเด็นหลัก คือ flaperon ที่พบเป็นของ MH370 หรือไม่ และสามารถคลี่คลายปริศนาช่วงวินาทีท้ายๆ ก่อนเครื่องบินตกได้หรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญยังต้องการทราบสาเหตุที่ทำให้ชิ้นส่วน flaperon หลุดออกมาจากปีกเครื่องบิน รวมไปถึงร่องรอยของการระเบิดหรือไฟไหม้ด้วย
เหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดใจดังกล่าวเกิดขึ้นในคืนวันที่ 8 มีนาคม 2557 ขณะบินจากกัวลาลัมเปอร์ไปยังกรุงปักกิ่ง หลังจากนั้นเครื่อง MH 370 ก็ขาดการติดต่อกับหอบังคับการบิน ตามมาด้วยการค้นหาซากเครื่องบินครั้งมโหฬารท่ามกลางพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาลของมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ตลอดระยะเวลา 16 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งการค้นหาเครื่องบิน MH370 ประสบกับความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
คืนวันที่ 8 มีนาคม 2557 ผู้โดยสารบนเครื่อง Boeing 777-200ER กำลังนั่งพักผ่อนเพื่อเตรียมขึ้นบินจากเมืองหลวงของมาเลเซียไปยังกรุงปักกิ่ง เป็นเวลาหลังเที่ยงคืน เครื่องแท็กซี่ออกไปตั้งลำอยู่บนรันเวย์เพื่อรอให้หอบังคับการบินเปิดเส้นทางสำหรับการขึ้นบิน นักบินประจำเครื่อง กัปตัน ซาฮารี อาห์หมัด ซาห์ นักบินที่หนึ่งอายุ 53 ปี มีชั่วโมงบินโชกโชนกว่า 18,000 ชั่วโมง ส่วนนักบินที่สอง ฟาริค อับดุล ฮามิด อายุ 27 ปี เข้ารับหน้าที่ในตำแหน่งนักบินผู้ช่วยเป็นครั้งแรกหลังจากจบการฝึกบินกับเครื่อง Boeing 777 เสียงวิทยุจากหอบังคับการบินแจ้งเข้ามาว่า "370 - 32 ขวา นำเครื่องขึ้นได้เลย ราตรีสวัสดิ์" และมีเสียงตอบกลับจากนักบินของ MH 370 ว่า "ขอบคุณครับ ราตรีสวัสดิ์" หลังจากนั้น กัปตันเร่งความเร็ว เสียงเครื่องยนต์เทอร์โบแฟนดังกระหึ่มขณะที่เร่งเครื่องยนต์อย่างเต็มที่ 40 วินาทีต่อมา เครื่อง 777 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ก็ยกตัวพ้นจากพื้นของรันเวย์ เครื่อง Boeing 777 หนัก 300 ตันเศษและมีความยาว 70 เมตรค่อยๆ หายลับไปในท้องฟ้ายามค่ำคืน
หลังจากบินขึ้นไปได้ไม่นานนัก นักบินวิทยุติดต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมเส้นทางการบินและได้รับอนุญาตให้ทำการไต่ระดับขึ้นไปที่ความสูง 350 (35,000 ฟุต) หรือที่ความสูง 10.7 กิโลเมตรจากพื้นซึ่งเครื่อง 777 จะใช้เวลาในการไต่ระดับเพดานบินประมาณ 20 นาที ไม่นาน มาเลเซียแอร์ไลน์ส MH370 ได้รับสัญญาณจากระบบเอคาร์ หรือ Aircraft Communications Addressing and Reporting System -ACARS ซึ่งเป็นระบบส่งสัญญาณแบบอัตโนมัติจากเครื่องบินมายังสายการบินเพื่อทำการรายงานพิกัดของเครื่องขณะทำการบิน หากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ระบบต่างๆในเครื่องก็จะทำการรายงานทันที หลังจากบินขึ้นได้ 45 นาที เวลา 01.19 น. ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศมาเลเซียตามแผนการบินของ MH370 เครื่อง Boeing 777 พร้อมลูกเรือและผู้โดยสาร 239 คน อยู่ในเส้นทางการบินและออกนอกน่านฟ้าของมาเลเซีย โดยมุ่งหน้าขึ้นไปยังทิศเหนือตัดตรงผ่านอ่าวไทยไปยังแหลมญวน หอบังคับการบินวิทยุแจ้งให้ MH370 เปลี่ยนคลื่นวิทยุเพื่อรายงานตัวต่อหอบังคับการของเวียดนามที่ความถี่ 120.9 เมกะเฮิรตช์ เสียงจากหอบังคับการบินแจ้งว่า "มาเลเซีย 370 ติดต่อโฮจิมินห์ 120.9 ราตรีสวัสดิ์" เสียงวิทยุจาก MH370 ตอบกลับหอบังคับการเพื่อทวนคำสั่งว่า "ราตรีสวัสดิ์ มาเลเซีย 370" หลังจากนั้นก็ไม่มีการติดต่อใดๆกลับมาอีกเลย
3 นาทีต่อมา เหตุการณ์อันเป็นปริศนาและนำมาซึ่งความเศร้าสลดก็ได้เริ่มต้นขึ้น สัญญาณหลายแบบหลายประเภทที่เครื่อง Boeing 777 ส่งลงมายังภาคพื้นดินกลับหยุดหายไปเฉยๆ สัญญาณจากทรานสปอนเดอร์ซึ่งเป็นตัวบอกให้เรดาร์และเครื่องบินลำอื่นๆ รู้ว่าเครื่องบินลำนี้คือ MH370 ได้ขาดหายไปพร้อมกับระบบ ADS-B ซึ่งใช้ระบบจีพีเอสของเครื่องบินในการแจ้งพิกัดความสูงและความเร็วของตัวเครื่องแล้วส่งเป็นข้อมูลไปยังสถานีภาคพื้นดินรวมถึงส่งไปยังเครื่องบินลำอื่นๆ ที่บินอยู่ใกล้ๆ ถูกปิดการทำงาน เวลา 01.25 น. เครื่อง Boeing MH370 เบนออกนอกเส้นทางตามตารางการบิน แทนที่จะมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เครื่อง 777 กลับหักเลี้ยวไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ข้อมูลจากเรดาร์ทางทหารแจ้งว่า MH370 ทำการไต่ระดับพเดานบินใหม่โดยบินสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึง 14,000 เมตร หรือ 14 กิโลเมตรจากพื้นดิน เป็นความสูงที่เกินระดับเพดานบินสูงสุดของเครื่องบิน Boeing 777 ที่ได้รับอนุญาตให้บินเกือบ 1 กิโลเมตร หอบังคับการบินได้ทำการวิทยุแจ้งเตือน MH370 และสั่งให้เครื่องบินลำอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงพยายามวิทยุติดต่อกับ MH370 แต่เสียงที่ได้ยินทางวิทยุกลับเป็นเสียงซ่าๆ และเสียงพึมพำ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทางภาคพื้นดินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์พยายามส่งข้อความถึงลูกเรือของ MH370 ด้วยระบบ เอคาร์ หรือ Aircraft Communications Addressing and Reporting System -ACARS แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ จากข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยในภายหลังบ่งชี้ว่า ข้อความภาคพื้นดินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ไปไม่ถึงปลายทางเนื่องจากอุปกรณ์ภาครับสัญญาณของเครื่อง Boeing 777 MH370 ถูกปิด
02.15 น. เครื่อง MH370 ไปโผล่บนจอเรดาร์ของกองทัพอากาศมาเลเซีย โดยบินอยู่เหนือช่องแคบมะละกา ซึ่งเป็นพื้นที่ระหว่างประเทศมาเลเซียกับเกาะสุมาตรา เส้นทางการบินมุ่งหน้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ผิดเพี้ยนไปจากแผนการบินปกติอย่างสิ้นเชิง MH370 กำลังบินมุ่งหน้าไปทางมหาสมุทรอินเดียอันกว้างใหญ่ไพศาล 10 นาทีต่อมา สัญญาณรายงานตัวอัตโนมัติถูกส่งจากเครื่อง Boeing 777 MH370 ไปยังดาวเทียมติดตามดวงหนึ่ง เป็นการยืนยันว่าเครื่องบินยังคงบินอยู่ในอากาศ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สพยายามติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมประจำเครื่อง หลังจากนั้นอีกไม่กี่นาทีก็ไม่ได้รับคำตอบจากเครื่อง MH370 แต่อย่างใดทั้งสิ้น 06.20 น. ตามเวลาในท้องถิ่นซึ่งเป็นเวลาที่เครื่องควรจะบินไปถึงยังปักกิ่งแล้วแต่ก็ไม่เป็นไปตามนั้น หลังจากการล่องหนหายไปของ Boeing 777 MH370 ตามด้วยการคว้าน้ำเหลวของการค้นหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การบิน หากทำการค้นหากล่องดำของเครื่องไม่พบ ก็ไม่มีทางที่จะเข้าถึงสาเหตุและข้อมูลที่แท้จริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เลย
จนถึงทุกวันนี้ ข้อมูลที่จะช่วยทำให้ทราบว่าเครื่อง Boeing 777 MH370 ไปตกที่ไหนยังคงสาบสูญไปพร้อมกับกล่องดำประจำเครื่อง ข้อมูลสุดท้ายเกี่ยวกับตำแหน่งของตัวเครื่องโผล่มาโดยไม่มีใครคาดคิดเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2557 เวลา 08:19.37 น. โดยดาวเทียมอินมาร์แซท-3 ได้รับสัญญาณปิ้ง อัตโนมัติจากเครื่อง MH370 บ่งบอกว่าเครื่องยังคงอยู่บนอากาศ ขณะนั้นเป็นเวลา 7 ชั่วโมง 38 นาที หลังเครื่อง 777 บินขึ้น แต่ไม่มีใครสามารถติดต่อกับลูกเรือบนเครื่องได้ ความหวังที่จะได้พบ MH370 ในสภาพสมบูรณ์ยิ่งเลือนรางลง ในช่วงไม่กี่วันต่อจากนั้นปฏิบัติการค้นหาซากเครื่องบินและกล่องดำก็ได้เริ่มต้นขึ้น กล่องดำหรือเครื่องมือบันทึกท่าทางการบินและรายละเอียดของตัวเครื่องขณะบินกับเสียงต่างๆ ภายในห้องนักบินเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในลำดับต้นๆ กล่องดำมีเครื่องส่งสัญญาณวิทยุคอยส่งสัญญาณคลื่นเหนือเสียงออกไปทุกๆ วินาทีหากเครื่องตก ซึ่งเรือและเครื่องบินค้าหาที่ติดตั้งอุปกรณ์รับสัญญาณจากกล่องดำจะสามารถจับสัญญาณนี้ได้ แต่เครื่องส่งวิทยุภายในกล่องดำใช้แบตเตอรี่เป็นพลังงานในการหล่อเลี้ยงการทำงานส่งสัญญาณและแบตเตอรี่จะหมดกำลังไฟเมื่อผ่านไป 30 วัน หลังจากนั้นการค้นหากล่องดำจะทำได้ยากมากยิ่งขึ้น หากทีมค้นหาและกู้ภัยไม่ทราบพิกัดที่แน่นอนของตัวเครื่อง
การค้นหา MH370 ซึ่งเป็นการค้นหาและกู้ภัยครั้งใหญ่เริ่มต้นขึ้นในอ่าวไทย หลังจากนั้นไม่นาน ทีมค้นหาได้ขยายวงกว้างออกไปจนกลายเป็นการค้นหาเครื่องบินหายที่กินพื้นที่กว้างที่สุดเท่าที่เคยมีมา ครอบคลุมพื้นที่ทะเลอันดามัน อ่าวเบงกอลและมหาสมุทรอินเดียทางตอนใต้ หลายเดือนผ่านไป เจ้าหน้าที่สืบสวนเริ่มเห็นภาพชัดขึ้นว่าเครื่องบินลำนี้อยู่บริเวณใดในช่วงไม่กี่ชั่วโมงก่อนหายสาบสูญ และใช้ข้อมูลดังกล่าวรวมถึงรัศมีของการบินกับตำแหน่งที่เครื่องส่งสัญญาณปิ้งไปยังดาวเทียมมาปรับใช้ในการค้นหา โดยช่างเทคนิคได้ประเมินเส้นทางการบินของ Boeing 777 MH370 อย่างคร่าวๆ จากสัญญาณปิ้งที่ส่งออกมา 8 ครั้ง จากตัวเครื่องไปยังดาวเทียมอินมาร์แซท-3 หน่วยงานค้นหามุ่งไปยังพื้นที่รอยต่อระหว่างออสเตรเลียกับหมู่เกาะเคอร์เกอเลนในมหาสมุทรอินเดีย กินพื้นที่กว้างถึง 600,000 ตารางกิโลเมตร และอยู่ห่างจากเมืองเพิร์ทของออสเตรเลียไกลกว่า 3,000 กิโลเมตร
คาดการณ์สาเหตุการหายไปของ Boeing 777 MH370
ทฤษฎีที่ 1 นักบินฆ่าตัวตาย
กัปตันปิดสัญญาณทุกชนิดจากห้องนักบินแล้วบังคับเครื่องดิ่งลงทะเล กัปตัน ซาฮารี อาห์หมัด ซาห์ นักบินที่หนึ่งอายุ 53 ปี มีชั่วโมงบินโชกโชนกว่า 18,000 ชั่วโมง ไม่มีกำหนดนัดหมายกับญาติหรือเพื่อนคนใดคนหนึ่งหลังวันเกิดเหตุ
กัปตันปิดสัญญาณทุกชนิดจากห้องนักบินแล้วบังคับเครื่องดิ่งลงทะเล กัปตัน ซาฮารี อาห์หมัด ซาห์ นักบินที่หนึ่งอายุ 53 ปี มีชั่วโมงบินโชกโชนกว่า 18,000 ชั่วโมง ไม่มีกำหนดนัดหมายกับญาติหรือเพื่อนคนใดคนหนึ่งหลังวันเกิดเหตุ
ทฤษฎีที่ 2 เครื่องบินถูกจี้ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ระบบทำการบินแบบอัตโนมัติของเครื่อง Boeing 777 MH370 ถูกผู้ก่อการร้ายเข้าควบคุมและสั่งการให้เครื่องบินตก (สาเหตุนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้)
ระบบทำการบินแบบอัตโนมัติของเครื่อง Boeing 777 MH370 ถูกผู้ก่อการร้ายเข้าควบคุมและสั่งการให้เครื่องบินตก (สาเหตุนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้)
ทฤษฎีที่ 3 เครื่อง Boeing 777 MH370 สูญเสียแรงดันในห้องโดยสาร
ความดันในห้องโดยสารลดต่ำลง ทำให้ทุกคนบนเครื่องรวมทั้งนักบินและลูกเรือหมดสติ เครื่องจึงตกทะเล
ความดันในห้องโดยสารลดต่ำลง ทำให้ทุกคนบนเครื่องรวมทั้งนักบินและลูกเรือหมดสติ เครื่องจึงตกทะเล
ทฤษฎีที่ 4 ไฟไหม้ห้องนักบิน
เกิดไฟไหม้อย่างรุนแรงใน Cockpit ของเครื่อง Boeing 777 MH370 อุปกรณ์ทางการบินบนเครื่องถูกทำลายทั้งหมด นักบินเสียชีวิตหรือสูญเสียการควบคุมเครื่องบิน.
เกิดไฟไหม้อย่างรุนแรงใน Cockpit ของเครื่อง Boeing 777 MH370 อุปกรณ์ทางการบินบนเครื่องถูกทำลายทั้งหมด นักบินเสียชีวิตหรือสูญเสียการควบคุมเครื่องบิน.
เอกสารประกอบบทความจากนิตยสาร SCIENCE ILLUSTRATED June 2015
BLACK BOX by Jens Trabolt เรียบเรียงโดย วิริยา สังขนิยม
BLACK BOX by Jens Trabolt เรียบเรียงโดย วิริยา สังขนิยม
ที่มา ; เว็บ นสพ.ไทยรัฐ
ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
" ติวสอบดอทคอม " โดย อ.นิกร
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(พัฒนาความรู้เตรียมครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
" ติวสอบดอทคอม " โดย อ.นิกร
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(พัฒนาความรู้เตรียมครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น