เรื่องใหม่น่าสนใจ
-คู่มือ 4 ชุด นโยบาย บริบริหาร ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
http://academic.obec.go.th/web/node/1/77/govdoc_sec_detail/296
-เกณฑ์ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ โดย สมศ.
-เกณฑ์การย้ายครู พ.ศ.2558 http://www.otepc.go.th/images/document/2558/v16-2558.pdf
- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558
http://tuewsob.blogspot.com/2015/05/4-10-1-57.html
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ โดย อ.นิกร
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ โดย อ.นิกร
เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 352/2558พบครูและผู้บริหารสถานศึกษาที่ จ.กำแพงเพชร
จังหวัด กำแพงเพชร - พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พบปะหารือเรื่องการนำนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ (Moderate Class More Knowledge) สู่การปฏิบัติกับผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 1-2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 41 ตลอดจนผู้อำนวยการโรงเรียน ศึกษานิเทศก์ และครูจากโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการนำร่องกว่า 30 แห่ง และโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชรรวมจำนวน 300 คน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม 2558 ที่หอประชุมวัชร นารี โรงเรียนกำแพงเพชรพิทยาคม
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงความพร้อมใน การนำนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ (Moderate Class More Knowledge) สู่การปฏิบัติว่า กระทรวงศึกษาธิการได้เตรียมความพร้อมให้แก่ครูในการบูรณาการการเรียนการสอนและกิจกรรมตามนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ซึ่งมีการเตรียมความพร้อมระดับหนึ่ง และเป็นการเข้าร่วมโครงการด้วยความสมัครใจ เช่น การจัดอบรมSmart Trainer : ผู้นำการนิเทศการจัดกิจกรรม "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้" จำนวน 300 ทีม เพื่อทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำกับโรงเรียน ตลอดจนสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะจัดประชุมชี้แจงเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้อำนวยการโรงเรียนและครู พร้อมทั้งจัดทำเมนูกิจกรรมช่วงบ่ายให้โรงเรียนเลือกใช้พร้อมคำแนะนำกว่า 400 เมนูอีกด้วย
นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการกำลังดำเนินการปฏิรูปการศึกษาในหลายส่วน โดยมีนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูป เพื่อตอบโจทย์และสนองนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้การเรียนการสอนในโรงเรียนช่วยทำให้นักเรียนมีความสุข ครูมีความสุข และผู้ปกครองมีความสุข
จึงได้เน้นให้ สพฐ.และหน่วยงานต่างๆ ที่จะเข้าร่วมจัดกิจกรรมให้แก่โรงเรียน จัดทำเมนูกิจกรรมที่จะทำให้นักเรียนไม่เกิดความทุกข์ ในขณะเดียวกันผู้ปกครองก็ไม่มีความกังวลเหมือนที่ผ่านมาว่ายัดเยียดให้นักเรียนเรียนมากเกินไป แต่ผลสัมฤทธิ์ที่ออกมายังไม่เป็นไปน่าพอใจมากนัก
ดังนั้น จึงขอให้โรงเรียนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสื่อสารให้ผู้ปกครองเข้าใจในประเด็นนี้ด้วย โดยมีกรอบแนวคิดการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมทักษะนักเรียนใน 4 ด้าน คือ
1) ด้านสติปัญญา (Head) ที่เน้นกิจกรรมให้เด็กสามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริง วิเคราะห์และสังเคราะห์ได้ โดยอาจนำวิธีการเพื่อนช่วยเพื่อน พี่ช่วยน้องมาใช้ ที่จะช่วยให้เกิดประโยชน์กับทั้งผู้สอนและผู้ถูกสอน อีกทั้งเป็นการสร้างความผูกพันด้วย อย่างไรก็ตามขอให้เน้นกิจกรรมที่ช่วยเรื่องกระบวนการคิดวิเคราะห์ให้มาก เพราะต้องการให้เด็กได้คิดก่อนที่จะเชื่อสิ่งใดๆ โดยเฉพาะสิ่งที่แชร์ต่อๆ กันมาทางไลน์ และต้องการให้เด็กใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ความรู้สึก
2) ด้านทัศนคติ (Heart) จะต้องปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม เคารพกฎกติกา และมีระเบียบวินัย รับรู้คุณูปการของสถาบันพระมหากษัตริย์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งสร้างลักษณะนิสัยเพื่อนช่วยเพื่อน พี่ช่วยน้อง
3) ด้านเรียนรู้และปฏิบัติจริง (Hand) ที่เปิดโอกาสให้ฝึกปฏิบัติและเรียนรู้ด้วยตนเอง
4) ด้านสุขภาพ (Health) เพื่อให้เด็กได้ฝึกซ้อมการเล่นกีฬา ออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายสดชื่นแข็งแรง
โอกาสนี้ ได้กล่าวฝากให้ผู้บริหารและผู้อำนวยการโรงเรียนทำหน้าที่เป็นผู้บังคับบัญชา (Commander) ที่บริหารงานและดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา โดยใช้ทั้งหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ กล่าวคือใช้หลักกฎหมาย ระเบียบ และกติกาในการบริหารจัดการ ตลอดจนใช้หลักรัฐศาสตร์ในการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา มีการผ่อนหนักผ่อนเบาตามโอกาสและเวลาที่เหมาะสม
ภาพ : ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี
นอกจากนี้ ได้รับฟังความคิดเห็นของผู้บริหารและครูเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน อาทิ ปัจจัยความสำเร็จหนึ่งที่สำคัญของโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ คือครู ที่จะต้องมีความรู้ความเข้าใจแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน, การแก้ไขปัญหาขาดแคลนนักการภารโรงในโรงเรียนหลายแห่ง, การแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมาก
ซึ่งประเด็นนี้ รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายที่จะแก้ไขปัญหาในภาพรวม โดยวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริง และจัดลำดับความสำคัญจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้มอบให้ผู้บริหารโรงเรียน รวบรวมข้อมูลจำนวนครูที่มีหนี้สินทั้งหมด แบ่งเป็นครูที่ไม่มีเงินเดือนเหลือเลย ครูที่มีเงินเดือนเหลือ 30% หรือ 50% เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการวิเคราะห์และหาทางแก้ไขปัญหา ในส่วนดอกเบี้ยที่สูงมากอาจจะหาทางดูแลประคับประคองต่อไป
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 352/2558พบครูและผู้บริหารสถานศึกษาที่ จ.กำแพงเพชร
จังหวัด กำแพงเพชร - พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พบปะหารือเรื่องการนำนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ (Moderate Class More Knowledge) สู่การปฏิบัติกับผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 1-2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 41 ตลอดจนผู้อำนวยการโรงเรียน ศึกษานิเทศก์ และครูจากโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการนำร่องกว่า 30 แห่ง และโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชรรวมจำนวน 300 คน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม 2558 ที่หอประชุมวัชร นารี โรงเรียนกำแพงเพชรพิทยาคม
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงความพร้อมใน การนำนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ (Moderate Class More Knowledge) สู่การปฏิบัติว่า กระทรวงศึกษาธิการได้เตรียมความพร้อมให้แก่ครูในการบูรณาการการเรียนการสอนและกิจกรรมตามนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ซึ่งมีการเตรียมความพร้อมระดับหนึ่ง และเป็นการเข้าร่วมโครงการด้วยความสมัครใจ เช่น การจัดอบรมSmart Trainer : ผู้นำการนิเทศการจัดกิจกรรม "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้" จำนวน 300 ทีม เพื่อทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำกับโรงเรียน ตลอดจนสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะจัดประชุมชี้แจงเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้อำนวยการโรงเรียนและครู พร้อมทั้งจัดทำเมนูกิจกรรมช่วงบ่ายให้โรงเรียนเลือกใช้พร้อมคำแนะนำกว่า 400 เมนูอีกด้วย
นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการกำลังดำเนินการปฏิรูปการศึกษาในหลายส่วน โดยมีนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูป เพื่อตอบโจทย์และสนองนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้การเรียนการสอนในโรงเรียนช่วยทำให้นักเรียนมีความสุข ครูมีความสุข และผู้ปกครองมีความสุข
จึงได้เน้นให้ สพฐ.และหน่วยงานต่างๆ ที่จะเข้าร่วมจัดกิจกรรมให้แก่โรงเรียน จัดทำเมนูกิจกรรมที่จะทำให้นักเรียนไม่เกิดความทุกข์ ในขณะเดียวกันผู้ปกครองก็ไม่มีความกังวลเหมือนที่ผ่านมาว่ายัดเยียดให้นักเรียนเรียนมากเกินไป แต่ผลสัมฤทธิ์ที่ออกมายังไม่เป็นไปน่าพอใจมากนัก
ดังนั้น จึงขอให้โรงเรียนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสื่อสารให้ผู้ปกครองเข้าใจในประเด็นนี้ด้วย โดยมีกรอบแนวคิดการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมทักษะนักเรียนใน 4 ด้าน คือ
1) ด้านสติปัญญา (Head) ที่เน้นกิจกรรมให้เด็กสามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริง วิเคราะห์และสังเคราะห์ได้ โดยอาจนำวิธีการเพื่อนช่วยเพื่อน พี่ช่วยน้องมาใช้ ที่จะช่วยให้เกิดประโยชน์กับทั้งผู้สอนและผู้ถูกสอน อีกทั้งเป็นการสร้างความผูกพันด้วย อย่างไรก็ตามขอให้เน้นกิจกรรมที่ช่วยเรื่องกระบวนการคิดวิเคราะห์ให้มาก เพราะต้องการให้เด็กได้คิดก่อนที่จะเชื่อสิ่งใดๆ โดยเฉพาะสิ่งที่แชร์ต่อๆ กันมาทางไลน์ และต้องการให้เด็กใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ความรู้สึก
2) ด้านทัศนคติ (Heart) จะต้องปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม เคารพกฎกติกา และมีระเบียบวินัย รับรู้คุณูปการของสถาบันพระมหากษัตริย์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งสร้างลักษณะนิสัยเพื่อนช่วยเพื่อน พี่ช่วยน้อง
3) ด้านเรียนรู้และปฏิบัติจริง (Hand) ที่เปิดโอกาสให้ฝึกปฏิบัติและเรียนรู้ด้วยตนเอง
4) ด้านสุขภาพ (Health) เพื่อให้เด็กได้ฝึกซ้อมการเล่นกีฬา ออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายสดชื่นแข็งแรง
โอกาสนี้ ได้กล่าวฝากให้ผู้บริหารและผู้อำนวยการโรงเรียนทำหน้าที่เป็นผู้บังคับบัญชา (Commander) ที่บริหารงานและดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา โดยใช้ทั้งหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ กล่าวคือใช้หลักกฎหมาย ระเบียบ และกติกาในการบริหารจัดการ ตลอดจนใช้หลักรัฐศาสตร์ในการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา มีการผ่อนหนักผ่อนเบาตามโอกาสและเวลาที่เหมาะสม
ซึ่งประเด็นนี้ รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายที่จะแก้ไขปัญหาในภาพรวม โดยวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริง และจัดลำดับความสำคัญจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้มอบให้ผู้บริหารโรงเรียน รวบรวมข้อมูลจำนวนครูที่มีหนี้สินทั้งหมด แบ่งเป็นครูที่ไม่มีเงินเดือนเหลือเลย ครูที่มีเงินเดือนเหลือ 30% หรือ 50% เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการวิเคราะห์และหาทางแก้ไขปัญหา ในส่วนดอกเบี้ยที่สูงมากอาจจะหาทางดูแลประคับประคองต่อไป
ที่มา ; เว็บ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
" ติวสอบดอทคอม " โดย อ.นิกร
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(พัฒนาความรู้เตรียมครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
" ติวสอบดอทคอม " โดย อ.นิกร
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(พัฒนาความรู้เตรียมครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น