เรื่องใหม่น่าสนใจ
-คู่มือ 4 ชุด นโยบาย บริบริหาร ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
http://academic.obec.go.th/web/node/1/77/govdoc_sec_detail/296
-เกณฑ์ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ โดย สมศ.
-เกณฑ์การย้ายครู พ.ศ.2558 http://www.otepc.go.th/images/document/2558/v16-2558.pdf
- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558
http://tuewsob.blogspot.com/2015/05/4-10-1-57.html
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ โดย อ.นิกร
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ โดย อ.นิกร
เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 355/2558ให้นโยบายผู้บริหารสำนักงาน สกสค.
สำนักงาน สกสค. - พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้นโยบายแก่คณะกรรมการ และผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สำนักงาน สกสค.) ทั่วประเทศ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม 2558 ณ หอประชุมคุรุสภา
นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. ได้นำเสนอ วิสัยทัศน์ พันธกิจ การบริหารจัดการของหน่วยงาน ซึ่งได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการ 3 ด้าน คือ 1) ยุทธศาสตร์การพัฒนารูปแบบการจัดสวัสดิการ สวัสดิภาพ และคุณภาพชีวิตครู 2) ยุทธศาสตร์พัฒนาคุณภาพการให้บริการ 3) ยุทธศาสตร์พัฒนาระบบบริหารจัดการ
โดยปัจจุบันคณะกรรมการ สกสค. มีจำนวนทั้งสิ้น 9 คน โดยมี รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานกรรมการ และนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. ส่วนรักษาการในตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. มี 2 คน คือ นายวัชรินทร์ ผละพล ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรบุคคล และนางอำนวยพร วัฒนารมย์ ผู้อำนวยการสำนักการคลัง
ปัจจุบัน สำนักงาน สกสค. มีกรอบอัตราพนักงานเจ้าหน้าที่มีอยู่จริง 711 คน แยกเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำ 629 คน พนักงานเจ้าหน้าที่ตามสัญญาจ้าง 82 คน โดยมีรายได้ของสำนักงานแยกเป็น 2 ด้าน คือ 1) เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน 2) เงินรายได้จากการดำเนินงาน ที่มาจาก 5 ส่วน คือ - เงินค่าบำรุงและค่าธรรมเนียมต่างๆ - เงินผลประโยชน์จากการลงทุนและการจัดหาผลประโยชน์ - เงินอุดหนุนจากภาคเอกชนหรือองค์กรอื่น - ผลประโยชน์จากการจัดการทรัพย์สินและการดำเนินกิจการ - ดอกผลของเงินและทรัพย์สิน ซึ่งทั้งหมดเป็นเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งกระทรวงการคลัง
ในปีงบประมาณ 2559 มีงบประมาณประจำปีจำนวนทั้งสิ้น 656 ล้านบาท เพื่อดำเนินการตามกรอบภารกิจ 5 ด้าน คือ ด้านสวัสดิการ ด้านสวัสดิภาพ ด้านพัฒนาคุณภาพชีวิตและความมั่นคง ด้านยกย่องเชิดชูเกียรติครูและบุคลากรทางการศึกษา และด้านสนับสนุนการวิจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสวัสดิภาพ มีกิจการต่างๆ คือ
- กิจการ ช.พ.ค. (การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา) มีสมาชิกจำนวน 996,999 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2558)
- กิจการ ช.พ.ส. (การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา ในกรณีที่คู่สมรสถึงแก่กรรม) มีสมาชิกจำนวน 400,340 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2558)
- โครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. มี 7 โครงการ กับธนาคารออมสิน ยกเว้นปีแรกที่ร่วมกับธนาคารกรุงไทย
ปัจจุบัน สำนักงาน สกสค.ได้ปรับลดค่าบริหารจัดการ ช.พ.ค.และ ช.พ.ส. จากเดิมที่กำหนดไว้ร้อยละ 4 คงเหลือร้อยละ 3 ส่งผลให้สมาชิกได้รับเงินสงเคราะห์รายศพเพิ่มขึ้นอีกครอบครัวละประมาณ 10,000 บาท ซึ่งปัจจุบันสมาชิก ช.พ.ค.ที่เสียชีวิต จะจ่ายให้ครอบครัวละ 200,000 บาท และ ช.พ.ส.ครอบครัวละ 100,000 บาท
พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ได้ฝากแนวทางการทำงานให้สำนักงาน สกสค. ใน 3 ประเด็น คือ
1) งบประมาณในการบริหารจัดการของสำนักงาน สกสค. ซึ่งจะต้องทบทวนการทำงานตามภารกิจให้ครบทุกข้อ ไม่มุ่งเน้นเฉพาะด้านที่เกี่ยวกับการปล่อยกู้เท่านั้น โดยให้พิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์ขั้นต่ำในการอนุมัติเงินกู้ครูในปัจจุบันว่ามีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร ซึ่งอาจจะต้องเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ปล่อยเงินกู้ครูมาหารือร่วมกันต่อไปด้วย เพื่อไม่ต้องการให้ครูมีภาระหนี้สินมากจนเกินไป หรือสร้างหนี้ที่ไม่จำเป็น รวมทั้งต้องให้ความสำคัญในการปรับปรุงระบบการตรวจสอบ (Re-Check) หลักฐานในการกู้เงิน โดยเฉพาะสลิปเงินเดือนที่ห้ามมีการปลอมแปลง นอกจากนี้ขอให้สำนักงาน สกสค.ส่งสถานะทางการเงินในกิจการต่างๆ ให้รับทราบต่อไปด้วย
2) ขอให้ช่วยกันกู้ภาพลักษณ์ของสำนักงาน สกสค. จากปัญหาการทุจริตในองค์กร ซึ่งย้ำว่าจะไม่ละเว้นต่อผู้ที่กระทำความผิดแม้แต่คนเดียว โดยจะดำเนินคดีทั้งคดีทางแพ่งและคดีอาญา และจากนี้ไปขอให้ทุกคนช่วยกันทำงานเพื่อให้เป็นองค์กรที่โปร่งใส มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ตามปณิธานในการทำงาน คือ "ครอบครัวครู ... เราดูแล"
3) การช่วยเหลือครูและบุคลากรทางการศึกษา จากการลงพื้นที่พบว่า ครูอัตราจ้างในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต่างๆ ที่จ้างโดยงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เมื่อครบสัญญาจ้าง 1 ปีแล้ว หากจะจ้างต่อในสัญญาใหม่ กว่าจะได้รับเงินตกเบิกจะใช้เวลานานกว่า 4-5 เดือน ทำให้ผู้บริหารโรงเรียนแต่ละแห่งต้องหาเงินส่วนตัวจ่ายให้ส่วนหนึ่งไปก่อน จึงฝากให้สำนักงาน สกสค.พิจารณาให้มีเงินสวัสดิการก้อนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือครูกลุ่มนี้ ซึ่งการทำหน้าที่แบบนี้ถือว่าเป็นการดูแลชีวิตครูอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการครูหรือครูอัตราจ้างก็ตาม
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวในที่ประชุมภายหลังรับฟังความคิดเห็นจากผู้บริหารสำนักงาน สกสค.จังหวัดต่างๆ ด้วยว่า ดีใจที่ทุกคนเห็นตรงกันว่าจะต้องเร่งกู้ภาพพจน์ของสำนักงาน สกสค.ให้ได้ภายในปี 2559 ซึ่งจะไม่ปล่อยให้คนที่กระทำทุจริต คอยสูบองค์กรได้มีที่ยืนอีกต่อไป พร้อมทั้งย้ำด้วยว่ามีความตั้งใจจริงที่จะช่วยกันทำงานเพื่อองค์กรนี้ รวมทั้งองค์การค้าของ สกสค. ที่ขอให้บริหารงานให้สามารถทำกำไรให้เกิดขึ้นได้ภายในปีหน้า
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 355/2558ให้นโยบายผู้บริหารสำนักงาน สกสค.
นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. ได้นำเสนอ วิสัยทัศน์ พันธกิจ การบริหารจัดการของหน่วยงาน ซึ่งได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการ 3 ด้าน คือ 1) ยุทธศาสตร์การพัฒนารูปแบบการจัดสวัสดิการ สวัสดิภาพ และคุณภาพชีวิตครู 2) ยุทธศาสตร์พัฒนาคุณภาพการให้บริการ 3) ยุทธศาสตร์พัฒนาระบบบริหารจัดการ
โดยปัจจุบันคณะกรรมการ สกสค. มีจำนวนทั้งสิ้น 9 คน โดยมี รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานกรรมการ และนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. ส่วนรักษาการในตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. มี 2 คน คือ นายวัชรินทร์ ผละพล ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรบุคคล และนางอำนวยพร วัฒนารมย์ ผู้อำนวยการสำนักการคลัง
ปัจจุบัน สำนักงาน สกสค. มีกรอบอัตราพนักงานเจ้าหน้าที่มีอยู่จริง 711 คน แยกเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำ 629 คน พนักงานเจ้าหน้าที่ตามสัญญาจ้าง 82 คน โดยมีรายได้ของสำนักงานแยกเป็น 2 ด้าน คือ 1) เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน 2) เงินรายได้จากการดำเนินงาน ที่มาจาก 5 ส่วน คือ - เงินค่าบำรุงและค่าธรรมเนียมต่างๆ - เงินผลประโยชน์จากการลงทุนและการจัดหาผลประโยชน์ - เงินอุดหนุนจากภาคเอกชนหรือองค์กรอื่น - ผลประโยชน์จากการจัดการทรัพย์สินและการดำเนินกิจการ - ดอกผลของเงินและทรัพย์สิน ซึ่งทั้งหมดเป็นเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งกระทรวงการคลัง
ในปีงบประมาณ 2559 มีงบประมาณประจำปีจำนวนทั้งสิ้น 656 ล้านบาท เพื่อดำเนินการตามกรอบภารกิจ 5 ด้าน คือ ด้านสวัสดิการ ด้านสวัสดิภาพ ด้านพัฒนาคุณภาพชีวิตและความมั่นคง ด้านยกย่องเชิดชูเกียรติครูและบุคลากรทางการศึกษา และด้านสนับสนุนการวิจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสวัสดิภาพ มีกิจการต่างๆ คือ
- กิจการ ช.พ.ค. (การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา) มีสมาชิกจำนวน 996,999 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2558)
- กิจการ ช.พ.ส. (การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา ในกรณีที่คู่สมรสถึงแก่กรรม) มีสมาชิกจำนวน 400,340 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2558)
- โครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. มี 7 โครงการ กับธนาคารออมสิน ยกเว้นปีแรกที่ร่วมกับธนาคารกรุงไทย
- กิจการ ช.พ.ส. (การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา ในกรณีที่คู่สมรสถึงแก่กรรม) มีสมาชิกจำนวน 400,340 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2558)
- โครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. มี 7 โครงการ กับธนาคารออมสิน ยกเว้นปีแรกที่ร่วมกับธนาคารกรุงไทย
ปัจจุบัน สำนักงาน สกสค.ได้ปรับลดค่าบริหารจัดการ ช.พ.ค.และ ช.พ.ส. จากเดิมที่กำหนดไว้ร้อยละ 4 คงเหลือร้อยละ 3 ส่งผลให้สมาชิกได้รับเงินสงเคราะห์รายศพเพิ่มขึ้นอีกครอบครัวละประมาณ 10,000 บาท ซึ่งปัจจุบันสมาชิก ช.พ.ค.ที่เสียชีวิต จะจ่ายให้ครอบครัวละ 200,000 บาท และ ช.พ.ส.ครอบครัวละ 100,000 บาท
1) งบประมาณในการบริหารจัดการของสำนักงาน สกสค. ซึ่งจะต้องทบทวนการทำงานตามภารกิจให้ครบทุกข้อ ไม่มุ่งเน้นเฉพาะด้านที่เกี่ยวกับการปล่อยกู้เท่านั้น โดยให้พิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์ขั้นต่ำในการอนุมัติเงินกู้ครูในปัจจุบันว่ามีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร ซึ่งอาจจะต้องเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ปล่อยเงินกู้ครูมาหารือร่วมกันต่อไปด้วย เพื่อไม่ต้องการให้ครูมีภาระหนี้สินมากจนเกินไป หรือสร้างหนี้ที่ไม่จำเป็น รวมทั้งต้องให้ความสำคัญในการปรับปรุงระบบการตรวจสอบ (Re-Check) หลักฐานในการกู้เงิน โดยเฉพาะสลิปเงินเดือนที่ห้ามมีการปลอมแปลง นอกจากนี้ขอให้สำนักงาน สกสค.ส่งสถานะทางการเงินในกิจการต่างๆ ให้รับทราบต่อไปด้วย
2) ขอให้ช่วยกันกู้ภาพลักษณ์ของสำนักงาน สกสค. จากปัญหาการทุจริตในองค์กร ซึ่งย้ำว่าจะไม่ละเว้นต่อผู้ที่กระทำความผิดแม้แต่คนเดียว โดยจะดำเนินคดีทั้งคดีทางแพ่งและคดีอาญา และจากนี้ไปขอให้ทุกคนช่วยกันทำงานเพื่อให้เป็นองค์กรที่โปร่งใส มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ตามปณิธานในการทำงาน คือ "ครอบครัวครู ... เราดูแล"
3) การช่วยเหลือครูและบุคลากรทางการศึกษา จากการลงพื้นที่พบว่า ครูอัตราจ้างในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต่างๆ ที่จ้างโดยงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เมื่อครบสัญญาจ้าง 1 ปีแล้ว หากจะจ้างต่อในสัญญาใหม่ กว่าจะได้รับเงินตกเบิกจะใช้เวลานานกว่า 4-5 เดือน ทำให้ผู้บริหารโรงเรียนแต่ละแห่งต้องหาเงินส่วนตัวจ่ายให้ส่วนหนึ่งไปก่อน จึงฝากให้สำนักงาน สกสค.พิจารณาให้มีเงินสวัสดิการก้อนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือครูกลุ่มนี้ ซึ่งการทำหน้าที่แบบนี้ถือว่าเป็นการดูแลชีวิตครูอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการครูหรือครูอัตราจ้างก็ตาม
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวในที่ประชุมภายหลังรับฟังความคิดเห็นจากผู้บริหารสำนักงาน สกสค.จังหวัดต่างๆ ด้วยว่า ดีใจที่ทุกคนเห็นตรงกันว่าจะต้องเร่งกู้ภาพพจน์ของสำนักงาน สกสค.ให้ได้ภายในปี 2559 ซึ่งจะไม่ปล่อยให้คนที่กระทำทุจริต คอยสูบองค์กรได้มีที่ยืนอีกต่อไป พร้อมทั้งย้ำด้วยว่ามีความตั้งใจจริงที่จะช่วยกันทำงานเพื่อองค์กรนี้ รวมทั้งองค์การค้าของ สกสค. ที่ขอให้บริหารงานให้สามารถทำกำไรให้เกิดขึ้นได้ภายในปีหน้า
ที่มา ; เว็บ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
" ติวสอบดอทคอม " โดย อ.นิกร
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(พัฒนาความรู้เตรียมครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
" ติวสอบดอทคอม " โดย อ.นิกร
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(พัฒนาความรู้เตรียมครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น