เรื่องใหม่น่าสนใจ (ทั้งหมด ที่ )
(เนื้อหา-ข้อสอบ 1,000 ชุุด หมื่นข้อ ภาค กข
+ 40 วิชาเอก) ที่ ห้องสอบด้านขวา หรือ
ติวสอบดอทคอม คลิ๊ก www.tuewsob.com 
-คู่มือ 4 ชุด นโยบาย บริบริหาร ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
-เกณฑ์ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ โดย สมศ.
- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่
เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
เลือกตั้ง ส.ค.60 'มีชัย'ยอมร่นเวลาให้ รีบออกกฎหมายลูก
“มีชัย” ใส่เกียร์ถอยเดินตามธง “บิ๊กตู่” ปรับกระบวนการปั๊ม ก.ม.ลูก เร่งยำ 5 พ.ร.บ. เกี่ยวกับการเลือกตั้งก่อน สานฝันเข้าโหมดกาบัตรเดือน ส.ค.ปี 60 เหน็บ “เทียนฉาย” ฟังข้อมูลมาผิดๆ โต้เสียงแข็งไม่ได้เพิ่มอำนาจติดดาบศาล รธน. “วิษณุ” ชี้ 3 ช่อง “ม.44-พ.ร.ก.-พ.ร.บ.” คุมเข้มทำประชามติ ต้นสัปดาห์หน้าเคลียร์ให้ชัดบทลงโทษ พร้อมเกณฑ์เสียงตัดสิน สนช.ซักฟอกร่างแรก รธน.จ้องขย่มปมบัตรใบเดียว-ฮั้วโหวตเลือก ส.ว. “ปึ้ง” ซัด กรธ. อย่าทำเหมือนหลอกเด็ก ดูถูก ปชช.โง่ “อ๋อย” แฉหน่วยราชการลงพื้นที่ชี้นำให้คนหนุน ฉะชกฝ่ายเดียวไม่ต้องถามให้เปลืองงบฯ “ประยุทธ์” คาใจเสียงวิจารณ์ทหารไร้ประโยชน์ เคืองไม่เลิก 2 ปีสื่อตามจี้ถามแต่เลือกตั้ง บ่นมีสิ่งรบกวนจิตใจจนเสียสมองเสียสติ สร้างความขัดแย้งทุกเรื่อง ลั่นถ้ายังเล่นงานผมอยู่ก็ยอมไม่ได้ งัด “เพลงคนดีไม่มีวันตาย” ฮึดสู้
จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยืนยันจะเดินหน้าเพื่อเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งในเดือน ก.ค.2560 ให้ได้ ล่าสุด นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ระบุว่าจะมีการปรับกระบวนการออกกฎหมายลูก เพื่อให้มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถจัดการเลือกตั้งได้ในเดือน ส.ค.2560
“มีชัย” เหน็บ “เทียนฉาย” ฟังมาผิดๆ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ก.พ. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ทำหน้าที่ประธานการประชุม จากนั้นเวลา 14.40 น. นายมีชัย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายเทียนฉาย กีระนันทน์ อดีตประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เป็นห่วงว่าร่างรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระมากเกินไปว่า น่ากังวล คนระดับนายเทียนฉายฟังจากที่มีคนวิพากษ์วิจารณ์แล้วนำมาวิจารณ์ต่อ ถ้าท่านกรุณาสักนิดจะพบว่า อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้มีเพิ่มไปจากเดิม แต่ที่ดูเหมือนมีอำนาจมาก เพราะมีการกำหนดคุณสมบัติต้องห้ามของ ส.ส. ส.ว. และรัฐมนตรีที่สูงขึ้น จึงเข้าใจผิดคิดว่าองค์กรอิสระมีอำนาจมากขึ้น เมื่อถามว่า กังวลเรื่องการสื่อสารหรือไม่ ขนาดอดีตประธาน สปช.ยังไม่เข้าใจ นายมีชัยกล่าวว่า น่ากังวล การออกมาพูดมีลักษณะไทยๆ กระโดดจับรับฟังมาผิดๆ แล้วต่อยอดไปเรื่อยๆ กรธ.กำลังหาวิธีนำข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับรู้อยู่ แต่ถ้ายังมีคนที่รับรู้บนพื้นฐานที่ไม่เป็นความจริง ไม่รู้จะปรับอย่างไร
เป็นไปได้ ส.ค.60 เลือกตั้งตามธง “บิ๊กตู่”
เมื่อถามอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นห่วงโรดแม็ปที่ต้องยืดออกไป เพราะต้องใช้เวลาทำกฎหมายลูกถึง 8 เดือน นายมีชัยกล่าวว่า กรธ.กำลังคิดอยู่ เมื่อนายกฯพูดออกมาถึงโรดแม็ปว่าต้องเลือกตั้งในเดือน ก.ค. ปี 60 กรธ.ต้องมาเริ่มต้นกระบวนการว่า หากให้มีการเลือกตั้งเดือน ก.ค. หรือ ส.ค.ก็น่าจะพอไปได้ เราต้องมาดูว่าเวลาพิจารณากฎหมายลูก 8 เดือนนั้นถือว่าหืดขึ้นคอ แต่ถ้าให้เป็นไปตามโรดแม็ปอาจล่าช้าออกไป 15-20 วัน ต้องมาว่ากันอีกที อย่างน้อยจะต้องพิจารณากฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 5-6 ฉบับ และถ้าพิจารณาฉบับละ 1 เดือน รวม 5-6 เดือน น่าจะเป็นไปได้ และระหว่างที่มีการจัดการเลือกตั้งจะพิจารณากฎหมายลูกอื่นๆให้ครบ หากปล่อยไว้จะเหมือนคราวก่อน รัฐธรรมนูญถูกฉีกไปกฎหมายลูกไม่ได้ทำ กรธ.รับรู้ถึงความกังวลของนายกฯต้องมาปรับกันว่าจะทำอย่างไร เมื่อถามว่า บทเฉพาะกาลต้องเขียนใหม่หรือไม่ เพราะร่างแรกระบุว่าให้ใช้เวลา 8 เดือน นายมีชัยกล่าวว่า ถ้าจำเป็นต้องปรับก็ต้องปรับเพื่อให้ชัดเจน แต่ยืนยันว่าระยะเวลาการพิจารณากฎหมายลูกนั้นเท่าเดิม เพียงแต่จะพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง จะต้องพูดคุยกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนว่าจะจัดลำดับอย่างไรให้เรียบร้อย
ถ้าคนใช้สิทธิ์ 80 เปอร์เซ็นต์ผ่านฉลุย
ต่อมาเวลา 15.00 น. นายอมร วานิชวิวัฒน์ โฆษก กรธ. แถลงว่า เรื่องใหญ่ของ กรธ.ขณะนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับความยุ่งยากซับซ้อนของการชี้แจง แต่มีผู้ที่ไม่มีความเข้าใจหรือเข้าใจแต่จงใจบิดเบือนข้อเท็จจริงของร่างรัฐธรรมนูญ เป็นที่มาของการผลิตรายการแกะกล่องรัฐธรรมนูญใหม่ ออกอากาศเป็นประจำทุกวัน ยืนยันไม่ได้ยัดเยียดประชาชนตามที่วิพากษ์วิจารณ์ แต่ กรธ.ไปขอความร่วมมือ คสช.ริเริ่มรายการ เพื่อต้องการสื่อสารประเด็นในร่างรัฐธรรมนูญกับคนที่บริสุทธิ์ เพื่อไม่ให้ถูกฝ่ายไม่หวังดีนำประเด็นไปบิดเบือน ส่วนกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ไม่ต้องทำประชามติ เพราะเปลืองงบประมาณเปลืองเวลานั้น มั่นใจว่าหากผู้ออกมาใช้สิทธิ์ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติได้ เพราะมั่นใจในพลังเงียบและพลังบริสุทธิ์ที่ศึกษาร่างรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง โดยไม่ฟังเสียงวิจารณ์ที่บิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ
สนช.จ่อซักฟอกบัตรเดียว-ฮั้วเลือก ส.ว.
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิก สนช. กล่าวถึงการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญของที่ประชุม สนช.ในวันที่ 5 ก.พ.ว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีสมาชิก สนช.ขออภิปรายร่างรัฐธรรมนูญทั้งหมดกี่คน เพราะวิป สนช.กำหนดให้ยื่นแสดงความจำนงขออภิปรายร่างรัฐธรรมนูญได้ถึงเวลา 12.00 น. ของวันที่ 5 ก.พ. แต่คาดว่าประเด็นที่จะอภิปรายคงไม่แตกต่างจากสิ่งที่ได้ตั้งคำถามกับ กรธ.ในการประชุมร่วมระหว่าง สนช.และ สปท. เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ส่วนใหญ่จะเป็นประเด็นเรื่องการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว จนถูกตั้งข้อสังเกตจะทำให้มีการทุจริตเลือกตั้งมากขึ้นหรือไม่ เพราะซื้อครั้งเดียวได้ทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมทั้งเรื่องการเลือกตั้ง ส.ว.ทางอ้อม ที่ยังมีข้อสงสัยว่าจะแก้ปัญหาบล็อกโหวตได้หรือไม่ แม้จะให้เลือกไขว้ระหว่างกลุ่มก็ตาม
วิป สปท.จัดคิวชำแหละร่าง รธน.
ที่รัฐสภา นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญกิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (วิป สปท.) แถลงว่า วิป สปท.กำหนดแนวทางการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญของสปท. ในวันที่ 8-9 ก.พ.โดยกำหนดให้คณะ กมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองมีเวลาอภิปราย 2 ชั่วโมง กมธ.ด้านการบริหารราชการแผ่นดินมีเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง ส่วน กมธ.ที่เหลือคณะละ 1 ชั่วโมง ประธานแต่ละคณะมีเวลาอภิปรายพิเศษแยกจาก กมธ.คนละ 20 นาที และประธาน กมธ.แต่ละคณะต้องเสนอรายชื่อผู้อภิปรายต่อประธานสปท.ก่อนเริ่มอภิปราย จากนั้นให้ กมธ.สรุปข้อคิดเห็นส่งให้ประธาน สปท.ภายในวันที่ 12 ก.พ.ก่อน 12.00 น. เพื่อส่งต่อไปยัง กรธ. โดยจะมีตัวแทนของ กรธ.เข้าร่วมรับฟังการประชุมด้วย อาจชี้แจงได้ถ้ามีประเด็นอภิปรายที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงในร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ให้ กมธ.แต่ละคณะเสนอเรื่องปฏิรูปที่ควรบรรจุไว้ในมาตรา 269 ของร่างรัฐธรรมนูญอย่างน้อยคณะละ 1 อนุมาตรา ต้องเป็นข้อความที่สั้นและกระชับส่งให้ประธาน สปท. ภายในวันที่ 11 ก.พ.
เชื่อ “บิ๊กตู่” เอาอยู่ไม่เบี้ยว ลต.ปี 60
นายวันชัย สอนศิริ โฆษก กมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมืองสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวว่า เสียงวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญของ กรธ. ยังแค่เห็นต่างมุมกัน ถือเป็นเสียงเจี๊ยวจ๊าวของปัญญา กัลยาณมิตร นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ก็ยอมรับคำวิจารณ์ บางเรื่องยังมองไม่ทัน ขอให้แสดงความเห็นมาอีกจะนำไปปรับปรุง ส่วนที่เคยบอกไว้ว่า ถ้าบ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อยแล้วจัดการเลือกตั้ง การเมืองจะกลับสู่วงเวียนขัดแย้งเดิมนั้น น่าเชื่อได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.ส่งสัญญาณชัดแล้วว่า จะเลือกตั้งในปี 60 คงไม่ทำผิดสัญญา เชื่อว่าที่นายกฯส่งสัญญาณ เพราะมีแผนจัดการทุกอย่างให้ได้เรียบร้อย เรียกว่าเอาอยู่ทุกสถานการณ์ ครั้งก่อน พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยพูดชัด แต่วันนี้พูดอย่างหนักแน่น จึงไม่มีเหตุผลใดทำให้เลื่อนการเลือกตั้ง
“วิษณุ” ชี้ 3 ช่องคุมเข้มประชามติ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมกำหนดแนวการทำประชามติ โดยเฉพาะกรณีที่จะต้องกำหนดบทลงโทษกับผู้ทำความผิดระหว่างการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญว่า การกำหนดโทษนั้นหากจะใช้มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวสามารถใช้ได้ โดยใช้แทนสิ่งที่จะออก พ.ร.บ.เหมือนที่ คสช.เคยทำมาแล้ว แต่หากไม่สมควรก็สามารถออก พ.ร.ก.หรือ พ.ร.บ.ได้ ทั้ง 3 ส่วนมีศักดิ์ศรีและสถานะเท่ากัน ส่วน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2552 ไม่ได้รองรับการทำประชามติเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ แต่เกี่ยวข้องเช่นถามความเห็นประชาชนเกี่ยวกับการสร้างเขื่อน เป็นต้น ไม่ได้เตรียมการสำหรับกรณีการขัดขวางการทำประชามติ ไม่สามารถใช้แทนกันได้
ถกกำหนดบทลงโทษสัปดาห์หน้า
นายวิษณุกล่าวต่อว่า หัวข้อต่างๆเกี่ยวกับการทำประชามติจะมีการหารือในรายละเอียดในสัปดาห์หน้าซึ่งจะมีการพูดคุยกันอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นวันออกเสียงประชามติการแจกจ่ายร่างรัฐธรรมนูญให้ครบ ร้อยละ 80 ว่ามีวิธีการอย่างไรบ้าง เรื่องงบประมาณ รวมไปถึงเกณฑ์การออกเสียงประชามติ และจะหารือถึงการดำเนินการหากเกิดกรณีการขัดขวางการทำประชามติ หรือไม่ทำให้ประชามติเป็นไปอย่างเรียบร้อย ตลอดจนเรื่องการทุจริตด้วย แต่คงไม่ถึงขนาดเขียนว่าห้ามรณรงค์หรือไม่ให้รณรงค์สำหรับผู้ที่ไม่เห็นด้วย อาจจะมีสักมาตราเขียนว่าผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของ กกต.ก็จะถูกลงโทษ ส่วนกรณีที่วิป สนช.ตีกลับร่างระเบียบ การออกเสียงประชามติของ กกต.คงมีเหตุผล เพราะในรัฐธรรมนูญชั่วคราวบัญญัติว่า กกต.ออกประกาศกำหนดวิธีการโดยผ่านความเห็นชอบของ สนช.กกต.จึงต้องส่งไป แต่วิป สนช.กลับบอกว่า ที่เขียนมาทั้งหมดถ้าเกิดมีการฝ่าฝืนจะรับโทษอย่างไร ขณะที่ กกต.บอกว่าไม่มีอำนาจในการกำหนดโทษ วิป สนช.จึงบอกว่าให้ไปเสนอรัฐบาลในการกำหนดโทษ
“สมชัย” ขอแนวทางส่งตีความหรือไม่
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่วิป สนช.ให้ กกต.ไปหารือกับรัฐบาลเกี่ยวกับร่างประกาศหลักเกณฑ์การออกเสียงประชามติว่า สัปดาห์หน้า กกต.จะหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทำประชามติ ว่าจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความข้อกฎหมายเรื่องเกณฑ์การตัดสินการออกเสียงประชามติหรือไม่ ถ้าหากจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ จะต้องระบุให้ชัดเจนว่า หน่วยงานใดจะเป็นผู้ยื่น นอกจากนี้ วันที่ 5 ก.พ. จะหารือกับสำนักกฎหมายสำนักงาน กกต.เกี่ยวกับประเด็นร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะกลับไปยังกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวเห็นว่ามี 7-8 ประเด็นที่ต้องพิจารณา และจะนำเข้าที่ประชุม กกต.พิจารณาในวันอังคารที่ 9 ก.พ. เพื่อเสนอ กรธ.ต่อไป
มท.เร่งจัดข้อมูลเสนอแก้กติกา
ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ ครม.ให้ทุกกระทรวงนำร่างรัฐธรรมนูญไปศึกษาเพื่อเสนอข้อคิดเห็นส่งไปยัง ครม.ว่า กระทรวงมหาดไทยกำลังดำเนินการอยู่ ให้แต่ละหน่วยงานเสนอความเห็นมาแล้วจะรวบรวมส่งไปที่เลขาธิการ ครม. เพื่อให้ ครม.พิจารณาต่อไป
“บิ๊กหมู” ตั้งแท่นความเห็นส่ง “บิ๊กป้อม”
ที่หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. กล่าวถึงการส่งทหารลงพื้นที่ทำความเข้าใจร่างรัฐธรรมนูญกับประชาชนว่า ทหารจะลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก ควบคู่กับการชี้แจงเรื่องร่างรัฐธรรมนูญไปพร้อมกัน เพื่อไม่ให้เสียเวลา จะทำความเข้าใจว่าร่างรัฐธรรมนูญเป็นประโยชน์อย่างไร จะช่วยแก้ไขปัญหาการทุจริตอย่างไร เพื่อให้ประชาชนรับรู้และฟังเสียงของรัฐบาลเป็นหลัก รัฐบาลตั้งใจปฏิรูปประเทศ และจะดูมาตราที่เกี่ยวข้องกับทหารเป็นหลัก จากนั้นจะเสนอไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม ที่เร่งรัดอยู่ ขณะนี้ยังแก้ไขได้ ต้องเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย เป้าหมายของรัฐธรรมนูญคือ เน้นการปราบทุจริต เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. สั่งการอะไรเพิ่มเติมหลังไปเข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 3 ก.พ. หรือไม่ พล.อ.ธีรชัยย้อนถามว่า รู้ได้อย่างไร
ระดม รด.จิตอาสาดึงคนใช้สิทธิ
พล.ท.วีรชัย อินทุโศภน ผบ.หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) กล่าวว่า มีโครงการ รด.จิตอาสา เป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ร่วมกับหน่วยทหารลงพื้นที่พร้อมกับชุดปฏิบัติการมวลชน และชุดกิจการพลเรือนต่างๆ ช่วยรัฐบาลทำความเข้าใจเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ โรดแม็ปของ คสช. และผลงานสำคัญของรัฐบาล ใกล้ช่วงลงประชามติ นรด.จะประสานกับ กกต. และ กรธ.จัดอบรมให้นักศึกษาวิชาทหารโครงการพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ให้ช่วยประชาสัมพันธ์อยู่หน้าหน่วยลงประชามติ แต่ไม่ได้ใช้เด็กเป็นผู้ชี้นำ แต่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ให้มากที่สุด ต่อไป นรด.จะทำแอพพลิเคชั่นไว้ใช้ติดต่อกันได้
“มาร์ค” กระตุกโลกจับตาโรดแม็ป
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมพิจารณาชี้แจงข้อซักถามในร่างแรกรัฐธรรมนูญของ กรธ.ต่อ สนช. และ สปท.ว่า ขณะนี้เรากำลังพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกเท่านั้น การแสดงความเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ถือเป็นเรื่องปกติ ประชาชนต้องมีทางเลือกที่ชัดเจนเพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญได้รับความเห็นชอบจากเจ้าของประเทศ ถ้าการทำประชามติไม่ผ่าน ปัญหาการเมืองจะมาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.จะลำบากมาก อาจกระทบต่อโรดแม็ป ย้อนกลับมาเป็นปัญหาของสังคมโลกที่จับตาอยู่ว่า ตกลง คสช.จะเดินตามโรดแม็ปหรือไม่ การที่ กรธ.บอกว่าการปราบทุจริตคอร์รัปชันเป็นจุดขายของร่างรัฐธรรมนูญ แต่มีจุดอ่อนอื่นๆ คือ หมวดสิทธิ-เสรีภาพ การตรวจสอบถ่วงดุลของกลไกต่างๆ เพราะเทียบกับรัฐธรรมนูญปี 40 และปี 50 แล้วถดถอยกว่าเข้าใจ กรธ.ที่เหน็ดเหนื่อย แต่ขอให้ปรับปรุงให้สังคมส่วนใหญ่ยอมรับและไม่เป็นปมปัญหาในอนาคต
“ปึ้ง” ซัด กรธ.อย่าดูถูกชาวบ้านโง่
ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เห็นความ พยายาม กรธ.ชี้แจงว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นประชาธิปไตย เพราะทำงานหนักมากในการยกร่าง ฟังดูแล้วไม่เข้าท่า รัฐธรรมนูญจะเป็นประชาธิปไตยหรือไม่อยู่ที่เนื้อหาและสาระ ไม่ใช่อ้างว่ายกร่างกันหนักมาก กรธ.โปรดเข้าใจว่าระบอบประชาธิปไตยจะยึดถือ 3 อำนาจหลัก คือ นิติบัญญัติ ตุลาการและบริหารเท่าเทียมกัน ไม่ควรมีอำนาจใดมาอยู่เหนือหรือมากำกับควบคุม ส่วนการเลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชนเลือกตัวแทนให้ทำหน้าที่ แต่ที่ กรธ.ร่างขึ้นเคารพสิทธิของประชาชนหรือไม่ ต้องตอบสังคมให้ได้ก่อน ไม่อยากเห็นการใช้วิธีประชาสัมพันธ์ที่ดูถูกดูแคลนว่าประชาชนไม่เข้าใจไม่รู้เรื่องประชาธิปไตย ไม่สมควรอย่างยิ่ง โตๆกันแล้ว ไม่ต้องมาทำอะไรให้ดูเหมือนหลอกเด็ก คิดว่าคนอื่นโง่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ มาคอยดูกันว่าประชาชนจะเอาด้วยหรือไม่ เปิดโอกาสให้ชี้แจงประชาชนได้รับทราบข้อมูลให้เท่าเทียมกัน อย่าปิดหูปิดตากันอีกต่อไป น่าจะเกิดความเป็นธรรมขึ้นบ้าง
ปูดหน่วยราชการชี้นำหนุน รธน.
นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย เขียนบทความเรื่องประชามติ ผ่านเฟซบุ๊กว่า ประชามติที่ลวงโลก ไม่ต้องมีจะดีกว่า คสช.และรัฐบาลกำลังส่งสัญญาณที่ไม่ดี สับสนอย่างยิ่งต่อสังคมไทยและชาวโลก แสดงท่าทีอย่างชัดเจนในการสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็น นอกจากพูดชี้นำอย่างไม่ต้องเหนียมอายว่าร่างรัฐธรรมนูญนี้ดีวิเศษอย่างไร ยังสั่งให้หน่วยราชการบางหน่วยชี้แจงให้ประชาชนสนับสนุนร่างนี้ด้วย หน่วยราชการได้ออกไปชี้แจงอย่างแข็งขันในระดับตำบล หมู่บ้าน เรียกว่าไม่ต้องสงวนท่าทีว่าจะต้องวางตัวเป็นกลางและให้ประชาชนตัดสินใจกันเอง แต่ชี้นำกันโต้งๆพร้อมกับมีกระบวนการรองรับอย่างเป็นระบบ
ชกฝ่ายเดียวไม่ต้องซาวเสียงดีกว่า
นายจาตุรนต์ระบุอีกว่า ขณะเดียวกันผู้นำและบุคคลสำคัญของ คสช.และรัฐบาลก็ได้ออกมาปรามหรือสั่งให้จัดการกับผู้ที่เห็นต่างหรือคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญนี้อย่างเปิดเผย ทั้งยังย้ำด้วยว่าถ้าพูดไม่ดีอีกก็จะจัดการอีก เหมือนจะไม่ให้มีการแสดงความคิดเห็นในทางคัดค้านเลย ไม่ต้องพูดถึงการรณรงค์คัดค้านก็คงจะถูกห้ามหรือขัดขวางอย่างเต็มที่แน่ ถ้าให้ข้อมูลแก่ประชาชนแบบด้านเดียว ปิดกั้นข้อมูลความคิดเห็นอีกฝ่าย การลงประชามติย่อมไม่มีความหมาย สู้ไม่ต้องจัดให้มีการลงประชามติเลยยังดีกว่า ขืนเดินหน้ากันไปอย่างนี้ มีแต่จะสิ้นเปลืองเปล่าๆ สิ่งที่สังคมไทยจะได้รับจากผู้มีอำนาจจะมีแค่การลงประชามติที่หลอกลวงและการเลือกตั้งที่ไร้ความหมาย
คสช.สั่งนิด้าเบรกสัมมนา รธน.
นายบรรเจิด สิงคะเนติ คณบดีคณะนิติศาสตร์ สถาบันพัฒนบัณฑิตบริหารศาสตร์ (นิด้า)และอดีตกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ยกเลิกงานสัมมนาวิชาการ “ร่างรัฐธรรมนูญฉบับกรธ...ปฏิรูปได้จริงหรือ” ซึ่งจะจัดในวันที่ 5 ก.พ.ที่นิด้า เพราะ คสช.เกรงว่าจะกระทบต่อความมั่นคง ส่วนที่ระบุเหตุผลยกเลิกจัดสัมมนาครั้งนี้เพราะไม่มีการขออนุญาตจัดสัมมนาล่วงหน้า 7 วันนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ และคงไม่มีการจัดสัมมนาอีกแล้วเพราะไม่อยากทำให้มีปัญหา
“บิ๊กตู่” ยังข้องใจทหารถูกหาไร้ประโยชน์
อีกเรื่อง เมื่อเวลา 09.22 น.ที่ห้องรอยัลจูบิลี่ อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาเตรียมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 มีตัวแทนส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นๆเข้าร่วม โดยนายกฯกล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้พยายามจะทำตัวเป็นคนดี สุภาพเรียบร้อยตามที่ทุกคนขอ แต่ตื่นมาตี 4 ก็โมโหแล้ว เพราะเห็นปัญหาหลายอย่าง ต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้น กับข้าราชการรัฐบาลไม่ได้มุ่งทำร้าย การมีคำสั่งมาตรา 44 ประเมินเพื่อให้มีศักดิ์ศรี ไม่ให้ใครมาก้าวข้ามได้ ข้าราชการหรือนักการเมือง ต้องรู้ปัญหาอยู่ตรงไหน อย่างทหารเข้ามาทำงาน เจอปัญหาด้วยตัวเอง เข้าร่วมแก้ปัญหาทุกครั้ง ทั้งน้ำท่วม ฝนแล้ง ภัยพิบัติ การประท้วงต่างๆ แต่กลับถูกมองว่าไม่มีประโยชน์ ไม่จำเป็นต้องมีทหาร บางครั้งของบฯมาปรับปรุงกองทัพ ก็ไม่ได้ เพราะยังติดว่าประชาชนยังยากจน บ่นน้อยใจก็ไม่ได้ วันข้างหน้าอาจจะเหลือรถถังวิ่งเพียงคันเดียวก็ได้ ยืนยันไม่ได้มีรถถังไว้ทุจริต
ขู่ทำตามสัญญาไม่ได้ยึดงบฯคืน
นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วงคือการปลูกข้าวที่เคยคุณภาพดี แต่มีการเอาพันธุ์ข้าวคุณภาพน้อยไปปลูก เพื่อให้มีรายได้ ไม่รู้ว่าใครทำ อาจจะผิดจะถูกไม่รู้ เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม รวมถึงกังวล เพราะมีการปลอมปนทั้งพันธุกรรมและดีเอ็นเอ ข้าวหอมมะลิบางพื้นที่เมล็ดเล็กลง ทำระบบบิดเบือนประชาชนได้ประโยชน์จริงหรือไม่ ทำระบบเป็นลบทั้งหมด กฎหมายก็ไม่เคารพ กระบวนการยุติธรรมไม่เชื่อมั่น แล้วประเทศนี้จะอยู่อย่างไร หนี้เกษตร หนี้ครูก็มาก สงสารประชาชน บางครั้งเช่าที่แล้วปลูกข้าวไม่ได้ แต่ต้องจ่ายค่าเช่า ตรงนี้ไม่เป็นธรรม ฝากฝ่ายปกครองให้ลงไปดู ส่วนการเสนอทำแผนงานโครงการต้องชัดเจนว่าจะเสร็จเมื่อไร ถ้าทำตามสัญญาไม่ได้ก็ยกเลิก เอาคืนทั้งหมด เอางบฯทำอย่างอื่นแทน เตรียมตัวเลย ไม่อย่างนั้นไม่จบ จะต้องไตร่ตรองจัดลำดับให้ดี อย่างโครงการ 2 ปีที่แล้วยังเพิ่งมาทำปีนี้ แบบนี้อย่าเสนอมาอีก จะเข้มงวดใช้งบฯปี 59 และปี 60 ไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นอีก
เคืองไม่เลิกสื่อตามจี้ถามเลือกตั้ง
นายกฯกล่าวว่า ท่ามกลางความขัดแย้งสูง ปัญหาความยากจน และปัญหาจากปัจจัยภายนอก ขอร้องอย่าเอาทุกอย่างมาพันกับคำว่าประชาธิปไตย อย่าเอาวาทะมาสร้างความขัดแย้ง ไทยหนีไม่พ้นประชาธิปไตยอยู่แล้ว แต่ขอเวลาอีกสักระยะทำประชาธิปไตยที่ยั่งยืน วันนี้ยังกลับมาแต่เรื่องประชาธิปไตย ถ้าอยากเลือกตั้งก็เลือกไป ถ้าเลือกแล้วมันไม่ดีก็อย่ามาเลือกตนหรือจะโทษกันอีก หรือมันดีอยู่แล้วก็เชิญ ไม่ได้ไปขัดแย้งอะไรกับพวกท่าน อย่ามาถามผมอีก ถามกันทั้งวัน เมื่อไหร่ ปัดโธ่ จะเป็นจะตายกันเท่าไหร่แล้ว ประชาชน เกษตรกรเขาเดือดร้อนหรือไม่ ไม่สนใจหรืออย่างไร และที่ตนหงุดหงิดมารายวัน เป็นเพราะคำถามเดิมๆ ของสื่อ 2 ปีมาแล้ว อะไรที่มันจะขัดแย้งขอลดลงหน่อย อย่าเคยชินกับความรุนแรง ความขัดแย้งจนหาทางออกให้ประเทศไม่เจอ ปลุกเร้าไปเรื่อย ไม่มีกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญใดในโลกยุติความขัดแย้งได้ จะทำได้มากน้อยเท่านั้น พวกทำผิดกฎหมายแล้วหนีไปต่างประเทศไม่ได้ ต้องกลับมา
ลั่นยังเล่นงานผมอยู่ก็ยอมไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้โลกใบนี้มีความเท่าเทียมคือใช้กฎหมายเดียวกัน เคารพกฎหมาย ไม่เลือกปฏิบัติ ตนพยายามทำให้สิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้น แต่ค่อนข้างยาก หลายคนพยายามกดดันว่าใช้มากเกินไป ที่มีอยู่แล้วอันเดิมยังไม่ทำเลย ต่อให้แรงอย่างไรก็ไม่ทำอีก มันต่อต้านทุกที ไปต่างประเทศไปฟ้องที่โน้น สิทธิมนุษยชนบ้าง ละเมิดบ้าง กฎหมายเขาตั้งกันวันนี้เหรอ ฉะนั้นอย่าไปคล้อยตามมากนัก และต้องปรับตัวเข้าสู่อนาคต 20 ปีข้างหน้าด้วย เพราะคนที่อยู่วันนี้ก็ตายกันไปเรื่อยๆ เป็นสัจธรรมของชีวิต ไม่มีใครหนีความตายได้พ้น และถ้าทุกคนยังเอาชนะกันอยู่กันไม่ได้ ถ้าทุกคนยังเล่นงานผมอยู่ ผมก็ยอมไม่ได้ เพราะผมต้องทำในสิ่งที่ตั้งใจจะทำ แต่ก็มีสิ่งที่รบกวนจิตใจ ทำให้ทำงานช้าลง เสียสมอง เสียความคิด เสียสติ วันนี้ เราต้องเดินหน้าประเทศ เพื่อวันหน้าเราจะได้ภูมิใจ ตายไปแล้วคนก็พูดถึง เคยฟังเพลงไหม “คนดีไม่มีวันตาย”
ประชดแต่งลิเกมาพูดไหมถึงฟัง
นายกฯกล่าวว่า วันนี้มันสร้างความขัดแย้งทุกเรื่อง ทุกคนจะบริหารจัดการกันเองหมด รัฐบาลชี้แจงมันไม่เคยเชื่อ เป็นเรื่องจริงก็ไม่เชื่อ แต่ถ้าใครก็ได้ที่ไม่ใช่ข้าราชการโกหกกลับเชื่อ ประเทศต้องมีสติ ในปีนี้ คสช.ต้องวางปฏิรูปให้จบ จึงไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่อาจจะไม่ใช่เสรีภาพทุกอย่างเคยทำ แบบนี้อย่าไปหวังอะไรเลย กลับบ้านนอนดีกว่า อย่าให้เขามาชักนำบิดเบือนว่าทำอะไรไม่ได้ วันนี้ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว พูดยาวก็ไม่อยากฟัง เสียเวลาดูละคร พูดสั้นก็ไม่รู้เรื่อง วันข้างหน้าหัวหน้า คสช.รำละคร ลิเกเลยไหม หรือเอานางเอกมาด้วย เล่นละครไปเลย วันนี้เราต้องปรับตัวเองต้องมีสาระเข้ามาด้วย จะมีบันเทิงก็ไม่ว่า ไม่เช่นนั้นเราจะพัฒนาตัวเองไม่ทัน ถ้ายังคิดถึงแต่ตัวเอง เกิดมาคิดแค่นี้ทุกอย่างก็เหมือนเดิม ไม่ใช่ทำหน้าที่แค่ปีนเขาจนเกษียณอายุราชการ ถ้าวันนี้คนไทยยังตีกันทุกเรื่อง จะเอาความมั่นคงมาจากตรงไหน สำคัญข้าราชการก็อย่าให้การเมืองชี้นำระบอบประชาธิปไตย ไว้ใจให้มาเป็นรัฐบาลต้องตัดสินใจให้ถูกต้องในวันหน้า และไม่ต้องมาระแวงพวกตนทั้งสิ้น
ตะโกนลั่น “คนดีไม่มีวันตาย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จการสัมมนา นายกฯลงจากเวทีได้ให้ทีมงานนำโทรศัพท์มาให้ แล้วเปิดแอพพลิเคชั่นและภาพอินโฟกราฟฟิก ประชาสัมพันธ์ผลงานรัฐบาล ยกโชว์แล้วถามผู้ร่วมสัมมนาว่า ได้ดูหรือยัง เมื่อผู้ร่วมสัมมนาส่ายหน้า โดยนายกฯกล่าวว่า “อ้าวยังไม่เห็นอีก เดี๋ยวเถอะ ส่วนใหญ่เป็นรูปตน เนื้อหาว่าทำอะไรไปบ้าง รัฐมนตรีทำอะไรไปบ้าง และที่ตนโมโหหงุดหงิดวันก่อน เพราะถามว่าเปิดดูอินโฟกราฟฟิกหรือยัง มีคนตอบว่าเห็นแล้ว จะให้ทำอย่างไรต่อ ไม่รู้ส่งมาทำไม รกโทรศัพท์ ตรงนี้ควรโมโหไหม เพราะที่ส่งไปเพื่อทำความเข้าใจว่าทำอะไรกันอยู่ ไม่อย่างนั้นก็วนอยู่แต่เรื่องเดิมๆ” จากนั้น นายกฯยังได้เปิดเพลง “คนดีไม่มีวันตาย”จากโทรศัพท์ พร้อมนำไมโครโฟนไปจ่อที่ลำโพงโทรศัพท์ และพูดว่า“ไปฟังกันนะ” โดยก่อนออกจากห้องนายกฯยังได้ตะโกนด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “คนดีไม่มีวันตาย”ขณะที่ผู้สื่อข่าวที่มาดักรอนายกฯสัมภาษณ์นอกห้องสัมมนา ได้ถามนายกฯว่า อารมณ์ดีหรือยัง หายโกรธหรือยัง ซึ่งนายกฯไม่ได้ตอบ โดยเอามือปิดปาก เดินไปขึ้นรถกลับทำเนียบรัฐบาล
พท.แขวะเดินฝ่ากระแสโลกยิ่งเหนื่อย
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่ากรณี พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุนายกฯฝากขอโทษสื่อมวลชนและประชาชนที่โมโหฉุนเฉียว ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ว่า ต้องขอขอบคุณที่ไม่ได้โทษรัฐบาลเก่า โทษพรรคการเมือง นักการเมืองเป็นต้นเหตุหรืออยู่เบื้องหลังทำให้ท่านผู้นำอารมณ์เสีย ที่บอกว่าหัวหน้า คสช.รู้สึกอ้างว้างและเดียวดาย ฟังแล้วสับสน นายกฯเป็นรัฏฐาธิปัตย์ มีกองทัพ มีอำนาจเด็ดขาดตามมาตรา 44 มีแม่น้ำ 5 สายห้อมล้อมโอบอุ้มจะอ้างว้างเดียวดายได้อย่างไร ประชาชนน่าจะอ้างว้างเดียวดายมากกว่า ทั้งชาวสวนยางพาราที่เดียวดายจนต้องผูกคอตาย เกษตรกรที่พืชผลการเกษตรทุกตัวราคาปรับตัวลดลง ท่านผู้นำควรต้องใช้โอกาสนี้ตรวจสอบว่าได้นำพาประชาชน นำพาประเทศไปผิดทิศผิดทางหรือไม่ การบริหารประเทศให้ดีเป็นศาสตร์ที่ซับซ้อนมากกว่าการสั่งกำลังพลซ้ายหันขวาหันที่คุ้นชินมาตลอด ท่านกำลังเดินฝ่ากระแสโลกที่กดดันให้ไทยเป็นประชาธิปไตย นำไปสู่การเลือกตั้ง ถึงขั้นหลายประเทศไม่เจรจาการค้า ตราบที่ประเทศไทยไม่มีการเลือกตั้ง ไม่มี ประชาธิปไตยหรือไม่ หากเดินฝ่ากระแสโลก ยิ่งเดิน ยิ่งเหนื่อย และเพื่อนร่วมทางนับวันน้อยลงเรื่อยๆ
“จตุพร” เตือน “บิ๊กตู่” ไม่ไหวก็หยุด
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.กล่าวในรายการมองไกล ผ่านทางยูทูบว่า การที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า นายกฯอ้างว้าง ต้องแบกรับปัญหาบนบ่าคนเดียวนั้น พวกแม่น้ำ 5 สายไปอยู่ไหนหมด ไม่ช่วยหรืออย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ต้องรู้ว่า ท่านอาสามาเอง พวกตนไม่ได้เลือกมา ดังนั้นถ้าทำไม่ได้ ไม่ไหวก็หยุด เพราะยิ่งเดิน ยิ่งทรมานตัวเอง และทรมานประเทศและประชาชน ที่ผ่านมาตนประกาศคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ เป็นการแสดงจุดยืนของตัวเองไม่ได้ปลุกระดมคนอื่น ปลุกแต่ตัวเอง ใครจะคว่ำหรือไม่แล้วแต่
สนช.ตั้ง กมธ.แก้ระบบอุปถัมภ์
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เป็นประธาน เพื่อพิจารณาญัตติการตั้งคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหาระบบอุปถัมภ์ในระบบราชการไทย โดยผลการสำรวจความคิดเห็นนักธุรกิจของเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม จัดอันดับระบบเล่นพรรคเล่นพวกหรือระบบอุปถัมภ์ของข้าราชการไทยอยู่อันดับ 93 จาก 148 ประเทศ เป็นสาเหตุหนึ่งของความไร้ประสิทธิภาพระบบราชการไทย เพราะนิยมยกย่องคนรวย และผู้มีอำนาจ นิยมการประจบสอพลอ กลายเป็นค่านิยมไม่ดีของคนไทย ที่ประชุม สนช.มีมติเป็นเอกฉันท์ 170 เสียง ให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดดังกล่าวมาพิจารณาเรื่องระบบอุปถัมภ์ในสังคมไทย โดยให้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม ใช้เวลา 120 วัน
พบพิรุธ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ
ช่วงบ่าย ที่รัฐสภา นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ รองประธานอนุกรรมาธิการศึกษาเสนอแนะมาตรการและกลไกในการปราบปรามการทุจริต สปท.แถลงชี้แจงเกี่ยวกับความกังวลในร่าง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐว่า พบว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีพิรุธเพราะปกปิดไม่ให้ประชาชนรับรู้ โดยเฉพาะในมาตรา 7 ที่ระบุยกเว้นไม่ให้ พ.ร.บ.ฉบับนี้บังคับใช้แก่การจัดซื้อจัดจ้างในรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวกับการพาณิชย์โดยตรง ไม่มีการให้นิยามที่ชัดเจน รวมถึงมาตรา 60 ที่ระบุว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ยังยกเว้นไม่ให้ดำเนินการกับการจ้างแบบเหมารวม ที่สังคมไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า มีการทุจริตหรือไม่ ดังนั้น อนุกรรมาธิการฯจึงได้เสนอให้มีการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.นี้ เพื่อให้นายกฯแก้ไขในมาตราที่เป็นปัญหา เพื่อจะได้ไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญที่มีวัตถุประสงค์เพื่อปราบโกงและจะได้ไม่เป็นปัญหาในวันหน้าถ้ากฎหมายนี้ออกมาบังคับใช้
“ราเมศ” โต้ “มาร์ค” ไม่ขาดคุณสมบัติ
นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกและคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้วินิจฉัยคุณสมบัติของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขาดจากการเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นการยื่นคำร้องที่ต้องการบิดเบือนข้อเท็จจริงทำให้ประชาชนเข้าใจผิดเพื่อทำลายนายอภิสิทธิ์ คดีนี้เป็นการฟ้อง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีต รมว.กลาโหม ที่ออกคำสั่งกระทรวงกลาโหมให้ปลดออกจากราชการ เรายืนยันมาตลอดว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งคดียังไม่ถึงที่สุด แล้วจะมีผลได้อย่างไร ขอให้เคารพกระบวนการยุติธรรม ขอให้นายเรืองไกรใช้สติปัญญาช่วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในคดีจำนำข้าวดีกว่า และช่วยไปติดตามคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯที่หนีคดีอยู่ นายเรืองไกรยื่นคำร้องไปทั่วมีคดีค้างอยู่ในชั้นตำรวจและชั้นศาล หลายเรื่องที่ไม่เป็นความจริง ฝ่ายกฎหมายพรรคจะไปติดตามคดีเหล่านี้ เพื่อเร่งรัดให้รวดเร็วขึ้น เพราะยังร้องคนอื่นไม่ยอมหยุด
เด้งอธิบดีกรมท่องเที่ยวฯเข้ากรุ
ค่ำวันเดียวกัน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน โดยมีใจความว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ว่าที่ร้อยตรี อานุภาพ เกษรสุวรรณ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ พ้นจากตําแหน่งอธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งที่ปรึกษาพิเศษสํานักนายกรัฐมนตรี สํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.2559
ที่มา ; เว็บ นสพ.ไทยรัฐ
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมสอบครูผู้ช่วย
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมสอบครูผู้ช่วย
ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น