เรื่องใหม่น่าสนใจ (ทั้งหมด ที่ )
(เนื้อหา-ข้อสอบ 1,000 ชุุด หมื่นข้อ ภาค กข
+ 40 วิชาเอก) ที่ ห้องสอบด้านขวา หรือ
ติวสอบดอทคอม คลิ๊ก www.tuewsob.com
-คู่มือ 4 ชุด นโยบาย บริบริหาร ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
-เกณฑ์ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ โดย สมศ.
- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่
เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
มด โหวงๆ ขึ้นเวทีไม่มี โฟร์ ลั่น! อยู่อาร์เอสอบอุ่น ปฏิเสธติดปีกอิสระ
ต้องบอกว่าเป็นลูกหม้อและลูกรักของค่ายยักษ์ฝั่งลาดพร้าว อาร์เอส เลยสำหรับ มด ณปภัช วัฒนากมลวุฒิ อดีตดูโอสาว โฟร์-มด มาวันนี้คู่หูอย่าง โฟร์ ศกลรัตน์ วรอุไร โบกมือลาออกไปเป็นนักแสดงอิสระ แต่ สาวมด เองยังคงปักหลักภักดีอยู่กับต้นสังกัดเก่า ทำไม เพราะอะไร เธอถึงเลือกที่จะอยู่ที่เดิม ไม่ขอสยายปีกอิสระตามเทรนด์ฮิตดาราต้องไปถามกับ มด เอง
ตั้งแต่เข้าวงการมา มด อยู่กับโฟร์มาตลอด ทุกวันนี้แยกย้ายกัน ยากขึ้นมั้ยกับการต้องทำงานคนเดียว
"รู้สึกแปลกมากกว่า รู้สึกโหวงๆ มากกว่า แต่ในเมื่อเป็นหน้าที่ของเรา เป็นงาน เราก็ต้องทำ มดมีความรู้สึกว่าในเมื่อเราได้โอกาส มีงานเข้ามา ทำไมเราต้องปฏิเสธไม่รับมันด้วย มดคิดแค่นี้แหละ แล้วก็ต้องทำงานให้ออกมาดีแค่นั้นเอง"
โฟร์ให้เหตุผลที่ไม่ต่อสัญญาเพราะอยากโตขึ้น อยากเปลี่ยนภาพ เปลี่ยนบทบาท ทำไม มด เองตัดสินใจต่อสัญญากับอาร์เอส ทั้งที่ไปแล้วเป็นอิสระแล้วอาจจะโตได้มากกว่า
"มดต่อสัญญาไป 5 ปี ในความรู้สึกมดนะ ถ้าเราจะเติบโต มันไม่เกี่ยวว่าเราจะอยู่ที่ไหน โอเค คนรอบข้างสภาพแวดล้อมที่เราจะอยู่อาจจะช่วย แต่ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา"
"มดต่อสัญญาไป 5 ปี ในความรู้สึกมดนะ ถ้าเราจะเติบโต มันไม่เกี่ยวว่าเราจะอยู่ที่ไหน โอเค คนรอบข้างสภาพแวดล้อมที่เราจะอยู่อาจจะช่วย แต่ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา"
ไม่คิดที่จะเป็นอิสระ?
"ไม่หรอก มดมีความรู้สึกว่ามดอยู่บ้านนี้แล้วมดอบอุ่น มดอยู่บ้านนี้แล้วมีความสุข ทำไมมดต้องไปไหนล่ะ อยู่ที่นี่มดมีงานเรื่อยๆ ผู้ใหญ่ก็ให้โอกาสป้อนงานเรามา แล้วมดเป็นคนท่ีไม่ได้เลือกงานอยู่แล้ว ก็เลยมีความรู้สึกว่าเราอยู่ตรงนี้แล้วสบายใจอบอุ่น
แล้วถามว่าอยู่บ้านอาร์เอสเราจะไม่เติบโตเหรอ มดมองว่ามันไม่ใช่ คนเราจะเติบโตหรือไม่ มันอยู่ที่ตัวเราเอง จะปรับทัศนคติ มุมมอง ความคิดหรือเปล่า ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรามากกว่า ต่อให้เราไปอยู่ข้างนอก วงการบันเทิงก็คือวงการบันเทิง อยู่กันแค่นี้ มันไม่ได้หลีกหนีไปไหนไกลมากหรอก"
ไม่กลัวว่าการอยู่ที่เดิมแล้วโอกาสเราจะน้อยลง
"มดว่าดีซะอีกกับการที่เรามีสังกัดคอยดูแลและคอยสกรีนงานให้ เพราะเราไม่รู้ว่างานบางงานที่เราทำเนี่ยจะเหมาะกับเรามากน้อยแค่ไหน ถ้าเกิดเราไปทำแล้วมันไม่เหมาะกับเรา มันก็อาจเป็นภาพเสียได้เหมือนกันนะ การที่เรามีสังกัดคือหนึ่งเลย เขาคอยสกรีนงานให้ สองคอยดูแลเทกแคร์เรา"
"มดว่าดีซะอีกกับการที่เรามีสังกัดคอยดูแลและคอยสกรีนงานให้ เพราะเราไม่รู้ว่างานบางงานที่เราทำเนี่ยจะเหมาะกับเรามากน้อยแค่ไหน ถ้าเกิดเราไปทำแล้วมันไม่เหมาะกับเรา มันก็อาจเป็นภาพเสียได้เหมือนกันนะ การที่เรามีสังกัดคือหนึ่งเลย เขาคอยสกรีนงานให้ สองคอยดูแลเทกแคร์เรา"
เลือกที่จะเซฟดีกว่าออกไปเสี่ยงข้างนอกหรือเปล่า
"ไม่ได้เชิงว่าไปข้างนอกแล้วจะเสี่ยงหรอก อย่างที่มดบอก เราอยู่บ้านนี้แล้วเราสบายใจแล้วเราอบอุ่น แฮปปี้ค่ะเราจะไปทำไม"
ช่วงนี้ดู มด ผอมลงมากๆ
"ใช่ผอมมาก รู้สึกตัวเองเก้งก้าง ผอมลงเรื่อยๆ เพราะอาทิตย์หนึ่งทำงานเยอะมาก ทำไปเรื่อยๆ เลย (แปลว่าช่อง 8 ถ่ายละครหนัก) มดว่าไม่ใช่เฉพาะช่อง 8 หรอก มันเป็นทั้งวงการการถ่ายละครแหละเป็นอย่างนี้แหละ เพราะถ้าเกิดละครออนแอร์ปุ๊บ เราก็ต้องมีงาน มีเดินสายโปรโมต"
มดแบ่งเวลาให้ตัวเองอย่างไร
"ว่างก็พัก เราต้องดูงาน อย่างอาทิตย์นี้เราทำงานมาหนักมั้ย ถ้าไม่หนักมาก เราก็อาจออกไปเจอเพื่อน ไปสังสรรค์ เอาง่ายๆ ถึงเราจะเป็นนักแสดงเป็นนักร้อง แต่สุดท้ายเราก็คือมนุษย์คนหนึ่ง มันก็ต้องมีอารมณ์ ฉันก็อยากไปเที่ยวข้างนอกกับเพื่อนบ้าง แต่เราแค่ต้องมีลิมิตของตัวเราเองว่า ความพอดีอยู่ตรงไหน"
เหนื่อยกับการต้องมาเล่นละคร ทั้งที่เราเป็นนักร้อง
"มันก็เหนื่อยเหมือนกันหมด ไม่ใช่มดเหนื่อยคนเดียว ทีมงานคนอื่นเขาก็เหนื่อยเหมือนกับเรา สุดท้ายทุกอย่างมันคือหน้าที่ ที่เราต้องรับผิดชอบ"
"มันก็เหนื่อยเหมือนกันหมด ไม่ใช่มดเหนื่อยคนเดียว ทีมงานคนอื่นเขาก็เหนื่อยเหมือนกับเรา สุดท้ายทุกอย่างมันคือหน้าที่ ที่เราต้องรับผิดชอบ"
อยู่ในวงการมาเกิน 10 ปี รู้สึกว่าเต็มที่ อิ่มตัวหรือยัง
"ไม่นะคะ รู้สึกว่าเราสนุกกับการทำงาน สนุกกับมันได้เรื่อยๆ เราไม่ได้แบบ โอ๊ยฉันเบื่อแล้ว ฉันจะเลิกทำ อันนี้ไม่เคยอยู่ในความรู้สึกมดเลย มดถือว่ามันคือหน้าที่อยู่แล้ว"
อยู่มาตั้งแต่เด็กเหมือนวงการบันเทิงคือครึ่งหนึ่งของชีวิต วงการนี้มันเปลี่ยนมดมั้ย
"ด้วยนะ อาจจะด้วยหน้าที่การงาน ด้วยความรับผิดชอบ พอเรามีความรับผิดชอบมากขึ้น มันก็เหมือนฝึกให้ตัวเองโตขึ้นไปด้วย กลายเป็นว่าบางทีตอนเด็กๆ ความคิดเราอาจจะดูโตกว่าความคิดเพื่อน แต่ตอนนี้เพื่อนๆ ก็เริ่มโตแล้วทำงานละ เขาก็จะเริ่มโตในแบบของเขา ซึ่งเราเริ่มทำงานมานานแล้ว เราก็จะผ่านโมเมนต์ตรงนั้นมาแล้ว"
"ด้วยนะ อาจจะด้วยหน้าที่การงาน ด้วยความรับผิดชอบ พอเรามีความรับผิดชอบมากขึ้น มันก็เหมือนฝึกให้ตัวเองโตขึ้นไปด้วย กลายเป็นว่าบางทีตอนเด็กๆ ความคิดเราอาจจะดูโตกว่าความคิดเพื่อน แต่ตอนนี้เพื่อนๆ ก็เริ่มโตแล้วทำงานละ เขาก็จะเริ่มโตในแบบของเขา ซึ่งเราเริ่มทำงานมานานแล้ว เราก็จะผ่านโมเมนต์ตรงนั้นมาแล้ว"
มุมมองต่อวงการบันเทิงเปลี่ยนแปลงมั้ย จากตอนเข้ามาแรกๆ
"เปลี่ยนแหละ ความคิดมุมมองคนเราต้องเปลี่ยนแปลง ตอนเด็กๆ เราก็ยังไม่ได้มองลงไปลึกมากด้วยความเป็นเด็ก แต่พอเราโตขึ้นเราเห็นอะไรเยอะขึ้น สังคมเปิดกว้างมากขึ้น ทำงานเจอคนเยอะขึ้น มันทำให้เราเห็นอะไรหลายๆ อย่างมากขึ้น พอรู้จักคนมากขึ้นเจอคนเยอะขึ้น เราจะเจอคนที่เรารู้สึกว่า เฮ้ยคนนี้ทำงานดี เฮ้ยแล้วทำไมคนนี้ทำงานแบบนี้ เราจะเจอคนหลายรูปแบบมาก เพราะฉะนั้นมดว่าทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเราทรรศนะมุมมองของเรา ว่าเราจะมองแบบไหน ปรับตัวอยู่อย่างไร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเราหมดเลย"
"เปลี่ยนแหละ ความคิดมุมมองคนเราต้องเปลี่ยนแปลง ตอนเด็กๆ เราก็ยังไม่ได้มองลงไปลึกมากด้วยความเป็นเด็ก แต่พอเราโตขึ้นเราเห็นอะไรเยอะขึ้น สังคมเปิดกว้างมากขึ้น ทำงานเจอคนเยอะขึ้น มันทำให้เราเห็นอะไรหลายๆ อย่างมากขึ้น พอรู้จักคนมากขึ้นเจอคนเยอะขึ้น เราจะเจอคนที่เรารู้สึกว่า เฮ้ยคนนี้ทำงานดี เฮ้ยแล้วทำไมคนนี้ทำงานแบบนี้ เราจะเจอคนหลายรูปแบบมาก เพราะฉะนั้นมดว่าทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเราทรรศนะมุมมองของเรา ว่าเราจะมองแบบไหน ปรับตัวอยู่อย่างไร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเราหมดเลย"
รับมือกับข่าวได้มากขึ้นมั้ย เพราะมดผ่านข่าวมาเยอะมาก
"เรียกว่าต้องเคยชิน ใช่คำว่าชินนะคะ เพราะเราอยู่ในวงการบันเทิง เป็นเรื่องปกติเลย ข่าวเป็นเรื่องปกติเลย ซึ่งเราก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ถ้ามันจริงก็ยอมรับว่ามันจริง แต่ถ้าข่าวมันไม่จริง เราก็พูดว่าข่าวมันไม่จริงเท่านั้นเอง"
"เรียกว่าต้องเคยชิน ใช่คำว่าชินนะคะ เพราะเราอยู่ในวงการบันเทิง เป็นเรื่องปกติเลย ข่าวเป็นเรื่องปกติเลย ซึ่งเราก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ถ้ามันจริงก็ยอมรับว่ามันจริง แต่ถ้าข่าวมันไม่จริง เราก็พูดว่าข่าวมันไม่จริงเท่านั้นเอง"
ปีนี้อายุ 25 แล้ว ความรักเป็นไงบ้าง
"ก็ไม่ได้เป็นไง ปกติค่ะ"
มองอนาคตมากขึ้นหรือเปล่า กับการจะมีความรักแต่ละครั้ง
"ถามว่าโตขึ้นแล้วเรามองอนาคตมากขึ้นมั้ย เราคิดแค่ว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่เราไปลงหลักปักฐานกับใคร เราแค่มีความรู้สึกว่าตอนนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่เรายังต้องใช้ชีวิตและก็เรียนรู้ชีวิตอยู่ ยังดูแลคุณพ่อคุณแม่อยู่".
"ถามว่าโตขึ้นแล้วเรามองอนาคตมากขึ้นมั้ย เราคิดแค่ว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่เราไปลงหลักปักฐานกับใคร เราแค่มีความรู้สึกว่าตอนนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่เรายังต้องใช้ชีวิตและก็เรียนรู้ชีวิตอยู่ ยังดูแลคุณพ่อคุณแม่อยู่".
ที่มา ; เว็บ นสพ.ไทยรัฐ
ที่มา ; เว็บ นสพ.ไทยรัฐ
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมสอบครูผู้ช่วย
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมสอบครูผู้ช่วย
ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น