เรื่องใหม่น่าสนใจ (ทั้งหมด ที่ )
(เนื้อหา-ข้อสอบ 1,000 ชุุด หมื่นข้อ ภาค กข
+ 40 วิชาเอก) ที่ ห้องสอบด้านขวา หรือ
ติวสอบดอทคอม คลิ๊ก www.tuewsob.com
-คู่มือ 4 ชุด นโยบาย บริบริหาร ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
-เกณฑ์ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ โดย สมศ.
- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่
เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 67/2559ครม.รับทราบ โครงการลดภาระหนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ของธนาคารออมสิน
ศึกษาธิการ - พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผย ผลการประชุม คณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ คือ รับทราบโครงการลดภาระหนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และ เห็นชอบกรอบการดำเนินงานระยะ 3 ปี (พ.ศ.2559-2561) ของ สสค.
รับทราบโครงการลดภาระหนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ธนาคารออมสิน ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่ให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ โดยใช้เงินทายาทจะได้รับในอนาคตเมื่อผู้กู้เสียชีวิตเพื่อใช้ค้ำประกัน อาทิ เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ครอบครัว (ช.พ.ค.) หรือเงินบำเหน็จตกทอด เพื่อนำมาขอเงินสินเชื่อใหม่เพื่อลดภาระหนี้หรือปิดบัญชีหนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าปกติ ในขณะที่กระทรวงการคลังรายงานผลที่จะได้รับว่าจะช่วยแก้ปัญหาหนี้สินให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ประมาณ 283,000 ราย ช่วยลดภาระหนี้ได้เฉลี่ยรายละ300,000-600,000 บาท ทำให้ลดภาระการผ่อนชำระหนี้เดิมลงเดือนละ 2,000-4,000 บาท หรือบางรายก็สามารถชำระหนี้ปิดบัญชีได้ พร้อมทั้งจะได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจากเดิมปีละ 5.85-6.70% เหลือปีละ 4%ทำให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งหมดจะมีขวัญกำลังใจในการทำงาน ช่วยให้เกิดการพัฒนาวิชาชีพครูในภาพรวมและคุณภาพการศึกษาของประเทศ
ทั้งนี้ มีข้อสังเกตจากนายกรัฐมนตรีและที่ประชุม คือ เมื่อธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อใหม่แล้ว ควรใช้วงเงินนี้ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ คือ ต้องใช้หนี้เดิมก่อน ไม่ใช่ไปสร้างหนี้ใหม่ และนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังไปหารือกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อพิจารณาแนวทางการป้องกันปัญหานี้ โดยการดำเนินโครงการดังกล่าวจะต้องมีการตรวจสอบสถานะของผู้กู้ที่เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนที่จะอนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่ให้ โดยธนาคารออมสินก็มีหลักเกณฑ์การปล่อยกู้ที่เข้มงวดอยู่แล้ว พร้อมกับได้ตรวจสอบบัญชีของผู้กู้ด้วย จากนั้นเมื่อเห็นว่ามีความเหมาะสมที่ต้องเข้าให้ความช่วยเหลือรายที่มีความเดือดร้อนจริงๆ ก็พิจารณาปล่อยสินเชื่อให้ต่อไป
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 67/2559ครม.รับทราบโครงการลดภาระหนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ของธนาคารออมสิน
ศึกษาธิการ - พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผย ผลการประชุม คณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ คือ รับทราบโครงการลดภาระหนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และ เห็นชอบกรอบการดำเนินงานระยะ 3 ปี (พ.ศ.2559-2561) ของ สสค. รับทราบโครงการลดภาระหนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ธนาคารออมสิน ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่ให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ โดยใช้เงินทายาทจะได้รับในอนาคตเมื่อผู้กู้เสียชีวิตเพื่อใช้ค้ำประกัน อาทิ เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ครอบครัว (ช.พ.ค.) หรือเงินบำเหน็จตกทอด เพื่อนำมาขอเงินสินเชื่อใหม่เพื่อลดภาระหนี้หรือปิดบัญชีหนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าปกติ ในขณะที่กระทรวงการคลังรายงานผลที่จะได้รับว่าจะช่วยแก้ปัญหาหนี้สินให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ประมาณ 283,000 ราย ช่วยลดภาระหนี้ได้เฉลี่ยรายละ300,000-600,000 บาท ทำให้ลดภาระการผ่อนชำระหนี้เดิมลงเดือนละ 2,000-4,000 บาท หรือบางรายก็สามารถชำระหนี้ปิดบัญชีได้ พร้อมทั้งจะได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจากเดิมปีละ 5.85-6.70% เหลือปีละ 4%ทำให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งหมดจะมีขวัญกำลังใจในการทำงาน ช่วยให้เกิดการพัฒนาวิชาชีพครูในภาพรวมและคุณภาพการศึกษาของประเทศทั้งนี้ มีข้อสังเกตจากนายกรัฐมนตรีและที่ประชุม คือ เมื่อธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อใหม่แล้ว ควรใช้วงเงินนี้ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ คือ ต้องใช้หนี้เดิมก่อน ไม่ใช่ไปสร้างหนี้ใหม่ และนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังไปหารือกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อพิจารณาแนวทางการป้องกันปัญหานี้ โดยการดำเนินโครงการดังกล่าวจะต้องมีการตรวจสอบสถานะของผู้กู้ที่เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนที่จะอนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่ให้ โดยธนาคารออมสินก็มีหลักเกณฑ์การปล่อยกู้ที่เข้มงวดอยู่แล้ว พร้อมกับได้ตรวจสอบบัญชีของผู้กู้ด้วย จากนั้นเมื่อเห็นว่ามีความเหมาะสมที่ต้องเข้าให้ความช่วยเหลือรายที่มีความเดือดร้อนจริงๆ ก็พิจารณาปล่อยสินเชื่อให้ต่อไป
ซึ่งดำเนินการโดยธนาคารออมสิน 1. 2. 1. 3. (1) (2) ครูและบุคลากรทางการศึกษาจะได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจากเดิมร้อยละ 5.85 – 6.70 ต่อปี เป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ซึ่งเป็นการแบ่งเบาภาระในระยะยาว อีกทั้ง ผู้กู้ไม่ต้องผ่อนชำระหนี้วงเงินสินเชื่อใหม่ตลอดอายุสัญญา (3) ครูและบุคลากรทางการศึกษามีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานดีขึ้น ทำให้เกิดการพัฒนาวิชาชีพครูในภาพรวมและส่งผลถึงคุณภาพของประชาชนในประเทศ (4) ช่วยให้ครูและบุคลากรทางการศึกษามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น |
เห็นชอบกรอบการดำเนินงานระยะ 3 ปี (พ.ศ.2559-2561) ของ สสค. คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) และเห็นชอบในหลักการกรอบแผนการดำเนินงานและความต้องการงบประมาณของ สสค.1. ผลการดำเนินงานของ สสค. ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สสค.ได้ปฏิบัติภารกิจตามอำนาจหน้าที่ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ และตามที่คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายเพิ่มเติมจนสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย โดยเฉพาะเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนประมาณ 350,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสประมาณ 250,000 คน อันเป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำในโอกาสทางการเรียนรู้ และสร้างเสริมสุขภาวะแก่เด็กในโรงเรียนห่างไกลและลำบากได้เป็นอย่างดี2. กรอบแผนการดำเนินงานในระยะต่อไป คณะกรรมการ สสค. ได้เห็นชอบแผนงานพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและเพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 4 จังหวัด มีสาระสำคัญ คือ เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลเรื่องการสร้างคุณภาพของคนไทยให้สามารถเรียนรู้ พัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ และพัฒนากำลังคนให้เป็นที่ต้องการเหมาะสมกับพื้นที่ ทั้งด้านการเกษตร อุตสาหกรรมและธุรกิจบริการ และส่งเสริมการขับเคลื่อนประเทศตามนโยบาย “ประชารัฐ” โดยการพัฒนาทักษะอาชีพของผู้เรียนและแรงงานตามความต้องการของตลาดแรงงานในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษตามนโยบายของรัฐบาล จึงสมควรดำเนินงานพัฒนายกระดับคุณภาพการเรียนรู้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โดยใช้พื้นที่เป็นฐาน (Area-Based) และมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐ ท้องถิ่น เอกชน และประชาสังคม ในลักษณะการปฏิบัติการควบคู่กับการศึกษาวิจัย เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงในพื้นที่ พร้อมกับสร้างองค์ความรู้อันนำไปสู่การสังเคราะห์นโยบายยุทธศาสตร์/แนวทางการดำเนินงาน ในลักษณะการปฏิบัติการควบคู่ไปกับการศึกษาวิจัย ซึ่งใช้ยุทธศาสตร์ 3 ประการ คือ การสร้างความรู้เชิงระบบ (Knowledge) การพัฒนาหุ้นส่วนความร่วมมือ (Partnership) และการสาธิตปฏิบัติการให้เห็นผล (Action) ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษระยะที่ 1 จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ ตราด ตาก สระแก้ว และหนองคาย เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงจริงในพื้นที่พร้อมกับสร้างองค์ความรู้เชิงระบบที่จำเป็นในการพัฒนาข้อเสนอนโยบายต่อรัฐบาล มุ่งเน้นสนับสนุนจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ในเชิงบูรณาการ การสนับสนุนทางวิชาการ และการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการโดยดำเนินงาน 2 ระดับ ทั้งระดับจังหวัดและระดับตำบลโดยกรอบดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี (พ.ศ.2559-2561) ทั้งนี้ กรอบแผนการดำเนินงานนี้เป็นการเสริมภารกิจของกระทรวงศึกษาธิการ โดย สสค. จะเน้นกลุ่มเป้าหมายทั้งกำลังแรงงานและเยาวชนกลุ่มเสี่ยง และให้ความสำคัญกับพื้นที่ยากจนหรือประชากรที่มีรายได้ค่อนข้างต่ำในลักษณะเชื่อมโยงกันด้วยระบบและกลไกในพื้นที่เข้ากับนโยบายการศึกษากับเขตเศรษฐกิจพิเศษผ่านธุรกิจท้องถิ่นขนาดกลางและขนาดย่อมที่มีสถานศึกษาเป็นจุดเชื่อมต่อ รวมถึงจัดศึกษาวิจัยร่วมไปกับการพัฒนาตามกรอบระยะเวลาของการศึกษาวิจัย ดังนั้น กรอบการดำเนินการตามที่เสนอจึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรในพื้นที่อย่างเต็มตามศักยภาพ และหนุนเสริมนโยบายของรัฐบาลให้บรรลุผลไปพร้อม ๆ กันผลที่คาดว่าจะได้รับ1) เกิดการพัฒนากำลังคนวัยเรียน โดยจะทำให้เด็กและเยาวชน (อายุ 15-21 ปี) จำนวน 20,000 คน ในเขตพื้นที่ยากจน มีทักษะการทำงานตรงตามความต้องการในเขตเศรษฐกิจพิเศษหรือชุมชนของตนเอง และอัตราการมีงานทำของผู้จบมัธยมศึกษาในพื้นที่เพิ่มขึ้นภายใน 3 ปี2) เกิดการพัฒนากำลังคนวัยแรงงาน โดยจะเพิ่มแรงงานฝีมือ (Skilled Labour) ที่มีทักษะอาชีพตรงตามกิจการเป้าหมายและได้รับการจ้างงานในพื้นที่ตรงขีดความสามารถ มีทักษะการประกอบอาชีพ 30,000 คน และจำนวนแรงงานสำเร็จการศึกษาวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลาย/ประกาศนียบัตรวิชาชีพ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25
ที่มา ; เว็บ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
ที่มา ; เว็บ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมสอบครูผู้ช่วย
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมสอบครูผู้ช่วย
ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
" ติวสอบดอทคอม "
" ติวสอบดอทคอม "
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น