เรื่องใหม่ ...น่าโหลด...(วันนี้)
-1.ปฎิทินและเกณฑ์สอบผู้บริหารสถานศึกษา สพฐ.ปี 2558
3.เครื่องแบบพนักงานราชการ 2557
-เกณฑ์สอบผู้บริหารสถานศึกษา 2557
- คำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
-นโยบาย รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ
- ครม.ประยุทธ์ 1 ที่ http://tuewsob.blogspot.com/2014/08/blog-post_29.html
- รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/055/1.PDF
- ตัวบ่งชี้ ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ พื้นฐาน-อุดม-อาชีว
โดย สมศ.
-นโยบาย รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ
- ครม.ประยุทธ์ 1 ที่ http://tuewsob.blogspot.com/2014/08/blog-post_29.html
- รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/055/1.PDF
- ตัวบ่งชี้ ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ พื้นฐาน-อุดม-อาชีว
ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ล่าสุด
ProProfs - ข้อสอบออนไลน์ ชุด 300 รอบรู้ ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน » Online quiz software
ProProfs - ข้อสอบออนไลน์ ชุด 300 รอบรู้ ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน » Online quiz software
ติวสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
ติวสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
( คลิ๊ก ) สมัครติวสอบครูผู้ช่วย ปี 2557-2558
ยุทธศาสตร์ประเทศไทย ปี 2558
คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานโยบายรัฐบาล (กขร.) ย้ำทุกส่วนราชการให้ยึดยุทธศาสตร์ฯ ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง อย่างยั่งยืน เป็นหลักในการทำงาน โดยกำหนดกรอบระยะเวลาแผนปฏิบัติการที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม สามารถติดตามและประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ (16 ม.ค.58) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานโยบายรัฐบาล (กขร.) ครั้งที่ 1/2558 ร่วมกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี นางสาวเรณู ตังคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ร้อยเอก ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งผลการประชุมสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานแจ้งที่ประชุมรับทราบว่า หลักการสำคัญของการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานโยบายรัฐบาล (กขร.) ในวันนี้ เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลที่ผ่านมามีความคืบหน้าไปมากน้อยเพียงใด ส่วนการทำงานในระยะต่อไปของ กขร. คือการขับเคลื่อนและเร่งรัดการทำงานของทุกกระทรวงให้มากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล นอกจากเรื่องที่ กขร. ได้ดำเนินการขับเคลื่อนและเร่งรัดอยู่ในขณะนี้ คือ ด้านการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ด้านการปฏิรูปประเทศ และด้านการบริการราชการแผ่นดิน ซึ่งประกอบด้วยนโยบาย 11 ด้าน ได้แก่ 1) การปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ 2) การรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ 3) การลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ 4) การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม 5) การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุขและสุขภาพประชาชน 6) การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ 7) การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน 8) การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม 9) การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน 10) การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาธิบาลและการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ และ11) การปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ในการขับเคลื่อน 21 เรื่องของนโยบายสำคัญของรัฐบาล ได้มีการประสานและส่งเรื่องดังกล่าวให้กับเจ้าภาพหลักเรียบร้อยแล้ว
พร้อมทั้ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องที่มีความเกี่ยวพันและเชื่อมโยงกับการทำงานของ กขร.ที่เพิ่มมากขึ้นว่า มี 3 เรื่อง คือ 1) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล (กขน.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ และรองนายกรัฐมนตรีทั้ง 5 คน เป็นรองประธานกรรมการ และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยมีอำนาจหน้าที่ อาทิ ติดตามขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่สำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาลแล้วรายงานผลการดำเนินการต่อนายกรัฐมนตรีเป็นระยะ เชิญหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ และคณะกรรมการอื่นมาชี้แจง ให้ข้อมูล และแสดงความคิดเห็นตามที่คณะกรรมการเห็นควร แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ที่ปรึกษาคณะกรรมการ หรือคณะทำงาน เพื่อช่วยเหลือหรือปฏิบัติงานตามความเหมาะสม โดยให้คณะอนุกรรมการมีอำนาจในการเชิญหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ และคณะกรรมการอื่น มาชี้แจง ให้ข้อมูล และแสดงความคิดเห็นตามความจำเป็น ปฏิบัติหน้าที่อื่นตาที่นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นต้น
สำหรับนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษ ปัญหาการค้ามนุษย์ ฯลฯ ซึ่งการทำงานของ กขน. จะมีการประสานเชื่อมต่อกับการทำงานของ กขร. อย่างใกล้ชิด โดยในส่วนของ กขร. จะเน้นในเรื่องของการติดตามขับเคลื่อนและเร่งรัดการปฏิบัติงานประจำ แผนปฏิบัติการในช่วงระยะเวลา 1 ปี ขณะที่ กขน. จะดูในเรื่องของนโยบายหลักและนโยบายสำคัญของรัฐบาล ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้การติดตามขับเคลื่อนและเร่งรัดทั้งการปฏิบัติงานประจำและนโยบายสำคัญของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ในส่วนของรัฐบาลยังจะมีการทำงานแบบคู่ขนานกับคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรองหัวหน้า คสช. เป็นประธาน ด้วย ดังนั้นกลไกหลักที่จะช่วยขับเคลื่อนการทำงานของทุกกระทรวงตามนโยบายของรัฐบาล มีทั้งหมด 3 กลไก ได้แก่ 1) กลไก กขน. ที่นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน 2) กลไกคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ 3) กลไก กขร. ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินงานขับเคลื่อนเร่งรัดของรัฐบาลเป็นไปในทิศทางเดียวกันและมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อครั้งประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้เสนอว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ประเทศสำหรับปี 2558 ว่า “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคง อย่างยั่งยืน” นั้น เพื่อให้การดำเนินนโยบายและแผนงานต่าง ๆ ของส่วนราชการบรรลุผลตามยุทธศาสตร์ดังกล่าว จึงให้ส่วนราชการที่ประสงค์จะเสนอเรื่องประเภทนโยบาย แผนงาน โครงการต่อคณะรัฐมนตรีจะต้องมีแผนการดำเนินการที่ชัดเจนและยึดยุทธศาสตร์ประเทศดังกล่าวโดยดำเนินการ ดังนี้ 1. แผนปฏิบัติการที่จะดำเนินการในช่วงระยะเวลา 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือน และ 1 ปี 2. ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ โดยกำหนดเป้าหมาย ผลสัมฤทธิ์ และตัวชี้วัตที่ชัดเจน สามารถติดตามและประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ3. แผนการใช้จ่ายงบประมาณหรือแหล่งเงินอื่น ๆ ที่สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการ ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ ทั้งนี้หากการดำเนินการของทุกภาคส่วนรวมทั้งในเรื่องของการปฏิรูปประเทศที่ สปช. ดำเนินการอยู่ได้ยึดยุทธศาสตร์ฯ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคง อย่างยั่งยืน” เป็นหลักและกรอบเชื่อมั่นว่าจะทำให้การขับเคลื่อนด้านยุทธศาสตร์ของรัฐบาลเป็นไปในทิศทางเดียวกันและเป็นการบูรณาการทำงานอย่างแท้จริง
พร้อมกันนี้ ที่ประชุม กขร. ได้มีการพิจารณาและหารือเกี่ยวกับการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน – 31 ธันวาคม 2557) ทั้งด้านการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ด้านการปฏิรูปประเทศ และด้านการบริการราชการแผ่นดิน ซึ่งประกอบด้วยนโยบาย 11 ด้าน โดยการดำเนินงานหลายด้านก็มีความคืบหน้าไปโดยลำดับ ขณะที่บางเรื่องยังต้องมีการเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมาย เช่น นโยบายเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งที่ประชุม กขร. ได้รับทราบรายงานการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณจากผู้แทนสำนักงบประมาณ ที่ได้มีการดำเนินการตามนโยบายของคณะกรรมการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณแล้ว พร้อมทั้งที่ประชุม กขร. ได้เน้นย้ำให้ส่วนราชการดำเนินการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ต่อไป
( คลิ๊ก ) สมัครติวสอบครูผู้ช่วย ปี 2557-2558
ยุทธศาสตร์ประเทศไทย ปี 2558
คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานโยบายรัฐบาล (กขร.) ย้ำทุกส่วนราชการให้ยึดยุทธศาสตร์ฯ ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง อย่างยั่งยืน เป็นหลักในการทำงาน โดยกำหนดกรอบระยะเวลาแผนปฏิบัติการที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม สามารถติดตามและประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ (16 ม.ค.58) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานโยบายรัฐบาล (กขร.) ครั้งที่ 1/2558 ร่วมกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี นางสาวเรณู ตังคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ร้อยเอก ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งผลการประชุมสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานแจ้งที่ประชุมรับทราบว่า หลักการสำคัญของการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานโยบายรัฐบาล (กขร.) ในวันนี้ เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลที่ผ่านมามีความคืบหน้าไปมากน้อยเพียงใด ส่วนการทำงานในระยะต่อไปของ กขร. คือการขับเคลื่อนและเร่งรัดการทำงานของทุกกระทรวงให้มากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล นอกจากเรื่องที่ กขร. ได้ดำเนินการขับเคลื่อนและเร่งรัดอยู่ในขณะนี้ คือ ด้านการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ด้านการปฏิรูปประเทศ และด้านการบริการราชการแผ่นดิน ซึ่งประกอบด้วยนโยบาย 11 ด้าน ได้แก่ 1) การปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ 2) การรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ 3) การลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ 4) การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม 5) การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุขและสุขภาพประชาชน 6) การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ 7) การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน 8) การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม 9) การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน 10) การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาธิบาลและการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ และ11) การปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ในการขับเคลื่อน 21 เรื่องของนโยบายสำคัญของรัฐบาล ได้มีการประสานและส่งเรื่องดังกล่าวให้กับเจ้าภาพหลักเรียบร้อยแล้ว
พร้อมทั้ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องที่มีความเกี่ยวพันและเชื่อมโยงกับการทำงานของ กขร.ที่เพิ่มมากขึ้นว่า มี 3 เรื่อง คือ 1) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล (กขน.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ และรองนายกรัฐมนตรีทั้ง 5 คน เป็นรองประธานกรรมการ และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยมีอำนาจหน้าที่ อาทิ ติดตามขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่สำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาลแล้วรายงานผลการดำเนินการต่อนายกรัฐมนตรีเป็นระยะ เชิญหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ และคณะกรรมการอื่นมาชี้แจง ให้ข้อมูล และแสดงความคิดเห็นตามที่คณะกรรมการเห็นควร แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ที่ปรึกษาคณะกรรมการ หรือคณะทำงาน เพื่อช่วยเหลือหรือปฏิบัติงานตามความเหมาะสม โดยให้คณะอนุกรรมการมีอำนาจในการเชิญหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ และคณะกรรมการอื่น มาชี้แจง ให้ข้อมูล และแสดงความคิดเห็นตามความจำเป็น ปฏิบัติหน้าที่อื่นตาที่นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นต้น
สำหรับนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษ ปัญหาการค้ามนุษย์ ฯลฯ ซึ่งการทำงานของ กขน. จะมีการประสานเชื่อมต่อกับการทำงานของ กขร. อย่างใกล้ชิด โดยในส่วนของ กขร. จะเน้นในเรื่องของการติดตามขับเคลื่อนและเร่งรัดการปฏิบัติงานประจำ แผนปฏิบัติการในช่วงระยะเวลา 1 ปี ขณะที่ กขน. จะดูในเรื่องของนโยบายหลักและนโยบายสำคัญของรัฐบาล ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้การติดตามขับเคลื่อนและเร่งรัดทั้งการปฏิบัติงานประจำและนโยบายสำคัญของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ในส่วนของรัฐบาลยังจะมีการทำงานแบบคู่ขนานกับคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรองหัวหน้า คสช. เป็นประธาน ด้วย ดังนั้นกลไกหลักที่จะช่วยขับเคลื่อนการทำงานของทุกกระทรวงตามนโยบายของรัฐบาล มีทั้งหมด 3 กลไก ได้แก่ 1) กลไก กขน. ที่นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน 2) กลไกคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ 3) กลไก กขร. ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินงานขับเคลื่อนเร่งรัดของรัฐบาลเป็นไปในทิศทางเดียวกันและมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อครั้งประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้เสนอว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ประเทศสำหรับปี 2558 ว่า “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคง อย่างยั่งยืน” นั้น เพื่อให้การดำเนินนโยบายและแผนงานต่าง ๆ ของส่วนราชการบรรลุผลตามยุทธศาสตร์ดังกล่าว จึงให้ส่วนราชการที่ประสงค์จะเสนอเรื่องประเภทนโยบาย แผนงาน โครงการต่อคณะรัฐมนตรีจะต้องมีแผนการดำเนินการที่ชัดเจนและยึดยุทธศาสตร์ประเทศดังกล่าวโดยดำเนินการ ดังนี้ 1. แผนปฏิบัติการที่จะดำเนินการในช่วงระยะเวลา 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือน และ 1 ปี 2. ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ โดยกำหนดเป้าหมาย ผลสัมฤทธิ์ และตัวชี้วัตที่ชัดเจน สามารถติดตามและประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ3. แผนการใช้จ่ายงบประมาณหรือแหล่งเงินอื่น ๆ ที่สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการ ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ ทั้งนี้หากการดำเนินการของทุกภาคส่วนรวมทั้งในเรื่องของการปฏิรูปประเทศที่ สปช. ดำเนินการอยู่ได้ยึดยุทธศาสตร์ฯ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคง อย่างยั่งยืน” เป็นหลักและกรอบเชื่อมั่นว่าจะทำให้การขับเคลื่อนด้านยุทธศาสตร์ของรัฐบาลเป็นไปในทิศทางเดียวกันและเป็นการบูรณาการทำงานอย่างแท้จริง
พร้อมกันนี้ ที่ประชุม กขร. ได้มีการพิจารณาและหารือเกี่ยวกับการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน – 31 ธันวาคม 2557) ทั้งด้านการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ด้านการปฏิรูปประเทศ และด้านการบริการราชการแผ่นดิน ซึ่งประกอบด้วยนโยบาย 11 ด้าน โดยการดำเนินงานหลายด้านก็มีความคืบหน้าไปโดยลำดับ ขณะที่บางเรื่องยังต้องมีการเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมาย เช่น นโยบายเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งที่ประชุม กขร. ได้รับทราบรายงานการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณจากผู้แทนสำนักงบประมาณ ที่ได้มีการดำเนินการตามนโยบายของคณะกรรมการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณแล้ว พร้อมทั้งที่ประชุม กขร. ได้เน้นย้ำให้ส่วนราชการดำเนินการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ต่อไป
โดย www.tuewsob.com (ผอ.นิกร เพ็งลี)
อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ
เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ
... ห้อง ติวสอบ (กรณีศึกษา)
( คลิ๊ก ) สมัครติวสอบผู้บริหารภาค 4 ภาค 30 จุดปี 2557-2558
ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา ที่
" ติวสอบดอทคอม " เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย (ผอ.นิกร เพ็งลี)
อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ
เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ
... ห้อง ติวสอบ (กรณีศึกษา)
( คลิ๊ก ) สมัครติวสอบผู้บริหารภาค 4 ภาค 30 จุดปี 2557-2558
ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา ที่
" ติวสอบดอทคอม " เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย (ผอ.นิกร เพ็งลี)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น