หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567
พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

คลิ๊ก "สมัครพัฒนาความรู้สู่ผู้บริหาร / ครูผู้ช่วย

คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ครูผู้ช่วย
คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ผู้บริหาร

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ติวสอบดอทคอม (เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์ สอบครู ผู้บริหาร บุคลากร)

วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2558

สรุปผลการประชุมคณะรัฐมนตรี

เรื่องใหม่ ...น่าโหลด...(วันนี้)

-1.ปฎิทินและเกณฑ์สอบผู้บริหารสถานศึกษา สพฐ.ปี 2558

3.เครื่องแบบพนักงานราชการ  2557
-เกณฑ์สอบผู้บริหารสถานศึกษา 2557 

คำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

-นโยบาย รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ
- รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/055/1.PDF
ตัวบ่งชี้ ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ พื้นฐาน-อุดม-อาชีว 
โดย สมศ.

ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษาชุดใหม่ล่าสุด

 ติวสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่

 ติวสอบ บน ยูทูป

  (  คลิ๊ก ) สมัครติวสอบผู้บริหารภาค 4 ภาค 30 จุดปี 2557-2558 


   คลิ๊ก ) สมัครติวสอบครูผู้ช่วย ปี 2557-2558 

 
สรุปผลการประชุมคณะรัฐมนตรี

http://www.thaigov.go.th

                วันนี้ (27 มกราคม 2558) เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1                 ทำเนียบรัฐบาล   พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี   เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี
                ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ร้อยเอก ยงยุทธ มัยลาภ  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี        พร้อมด้วย  พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี   สรุปสาระสำคัญดังนี้



กฎหมาย
                1.             เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานและให้อำนาจปฏิบัติการเกี่ยวกับ
                                สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 พ.ศ. ....
                2.             เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักขังตามประมวลกฎหมายอาญา
                                (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
                3.             เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและ                                ยกเว้นรัษฎากร    (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [การกำหนดรายชื่อบริษัทสำนักหักบัญชี                                         (ประเทศไทย) จำกัด ให้เป็นผู้ยืมหรือผู้ให้ยืมหลักทรัพย์]
                4.     เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่
                                ตำบลเหมืองง่า ตำบลในเมือง ตำบลต้นธง และตำบลบ้านแป้น อำเภอเมืองลำพูน                จังหวัดลำพูน พ.ศ. ....
                5.     เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การจัดการน้ำเสีย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
                6.     เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยขอนแก่น                                 กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ....
                7.     เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมือง                        ใช้ร่วมกันในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ในท้องที่
                                ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของการ
                                นิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. ....
                8.     เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมือง                        ใช้ร่วมกันในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมอาร์ ไอ แอล ในท้องที่
                                ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคม                อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
                9.     เรื่อง ร่างกฎกระทรวงกำหนดเขตท่าเรือ เขตจอดเรือ และเขตควบคุมการเดินเรือ                      บริเวณอ่าวพัทยา เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนด                          หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและการออกใบอนุญาตใช้เรือและการ                                ประกันภัยสำหรับเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้กิจการพิเศษ (เจ็ตสกี                       เพื่อเช่า) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ




                10.   เรื่อง ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคาร                    บางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. ....
                11.   เรื่อง ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนวังทอง จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. ....
                12.   เรื่อง ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. ....
                13.   เรื่อง ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสิงห์บุรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
                                (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง
                14.   เรื่อง ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดหนองบัวลำภู พ.ศ. ....
                15.   เรื่อง ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม
                                พ.ศ. ....
                16.   เรื่อง ร่างกฎกระทรวงการประกาศกำหนดตำรับยาแผนไทยทั่วไปหรือตำราการแพทย์                            แผนไทยทั่วไป      พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวงการประกาศกำหนดตำรับยาแผนไทย                             ของชาติหรือตำราการแพทย์แผนไทยของชาติ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงการ                                  ขอรับอนุญาตและการอนุญาต  ข้อจำกัดสิทธิ และค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์                  จากตำรับยาแผนไทยของชาติหรือตำราการแพทย์แผนไทยของชาติ พ.ศ. ....
                17.   เรื่อง ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่         และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในท้องที่ตำบลวัดเกต ตำบลหนองหอย
                                อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตำบลหนองผึ้ง ตำบลยางเนิ้ง และตำบลสารภี  อำเภอสารภี              จังหวัดเชียงใหม่ และในท้องที่ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน                            พ.ศ. ....



เศรษฐกิจ – สังคม

                18.   เรื่อง โครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง
                19.   เรื่อง          ขอความเห็นชอบให้ข้าราชการลาเข้าร่วมอุปสมบทในโครงการอุปสมบทเฉลิม
                                พระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  เนื่องในโอกาสทรง                      เจริญพระชนมายุ 5 รอบ 60 พรรษา โดยไม่ถือเป็นวันลา
                20.   เรื่อง การพิจารณากำหนดวันหยุดราชการประจำปี พ.ศ. 2558  เพิ่มเป็นกรณีพิเศษ
                21.   เรื่อง สรุปรายงานการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล
                                รอบ 2 เดือน (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน – 30 พฤศจิกายน 2557)
                22.   เรื่อง ขอขยายระยะเวลาดำเนินมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนด้านการ                      เดินทางออกไปอีก 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 31 กรกฎาคม 2558



ต่างประเทศ
                23.   เรื่อง ขออนุมัติการจัดทำและลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย                              กับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถานว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว
                24.   เรื่อง การประชุมมิตรประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่างสมัยพิเศษระดับรัฐมนตรีช่วยหรือ                                        เทียบเท่าว่าด้วยการพัฒนาแม่น้ำโขงอย่างยั่นยืน (Extraordinary Friends of the                          Lower Mekong Initiative Sub-cabinet Level Meeting on Mekong                                    Sustainability)
                25.   เรื่อง ร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มประเทศอนุ                             ภูมิภาคลุ่มน้ำโขง  ครั้งที่ 4
                26.   เรื่อง ขออนุมัติร่างบันทึกผลการประชุมแผนความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์                                       แห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าแห่งสาธารณรัฐ                                  ประชาธิปไตยประชาชนลาว ครั้งที่ 6



แต่งตั้ง
                27.   เรื่อง ขอปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช
                28.   เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับ                                     ทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข)
                29.   เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับ                                     ทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข)
                30.   เรื่อง การอนุมัติองค์ประกอบคณะกรรมการฝ่ายไทยในคณะกรรมการบริหารมูลนิธิ                                  การศึกษาไทย-อเมริกัน (ฟุลไบรท์) ประจำปี 2558
                31.   เรื่อง ขอความเห็นชอบในการแต่งตั้งและกำหนดเงินเดือนของผู้ว่าการรถไฟ
                                แห่งประเทศไทย
                32.   เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ (เพิ่มเติม)
                33.   เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง                                             กระทรวงมหาดไทย

******************
สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396




กฎหมาย
1. เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานและให้อำนาจปฏิบัติการเกี่ยวกับสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 พ.ศ. ....
                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ดังนี้
                1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานและให้อำนาจปฏิบัติการเกี่ยวกับ  สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และ              และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอ         สภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
                2. การให้สัตยาบันความตกลงเพื่อการจัดตั้งสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 ภายหลังที่ร่างพระราชบัญญัติตามข้อ 1. ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว และ
                3. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำสัตยาบันสารภายหลังที่ร่างพระราชบัญญัติตาม    ข้อ 1. ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว เพื่อให้กระทรวงการคลังดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป 
                สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
                1. กำหนดให้ยอมรับสำนักงานซึ่งเป็นองค์การระหว่างประเทศ มีสถานะเป็นนิติบุคคลและให้ถือว่า     มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย
                2. กำหนดให้สำนักงาน เจ้าหน้าที่อาวุโสหรือผู้แทน สมาชิกคณะที่ปรึกษาของสำนักงาน ผู้อำนวยการ และเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน และผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับมอบหมายจากสำนักงานให้ปฏิบัติงานเพื่อสำนักงาน ในระหว่างที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทยได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน ตามที่ระบุไว้ในความตกลง
                3. ให้ กค. และ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีอำนาจปฏิบัติตามข้อผูกพัน และให้มีอำนาจนำส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามความจำเป็นสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงาน

2. เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักขังตามประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักขังตามประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
                สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
                1. กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจใช้เครื่องพันธนาการแก่ผู้ต้องกักขังที่อาจจะทำอันตรายต่อตนเองหรือผู้อื่น หรือวิกลจริตซึ่งอาจจะทำอันตรายต่อตนเองหรือผู้อื่น หรือกรณีที่ถูกควบคุมตัวไปนอกสถานที่กักขัง และมีพฤติการณ์จะหลบหนี
                2. กำหนดการรับรองสิทธิของผู้ต้องกักขังในการยื่นเรื่องราวร้องทุกข์และถวายฎีกา
                3. กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจตรวจสอบจดหมาย เอกสารและสกัดกั้นการสื่อสาร
                4. กำหนดการปฏิบัติต่อผู้ต้องกักขังหญิงมีครรภ์ ให้ได้รับการดูแลรักษาพยาบาล เช่นเดียวกับผู้หญิงมีครรภ์โดยทั่วไป
                5. เพิ่มอัตราโทษสำหรับผู้ต้องกักขังที่ถูกปล่อยตัวไปกรณีมีเหตุฉุกเฉินแล้วไม่กลับมารายงานตัวจากเดิมจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
                6. เพิ่มอัตราโทษผู้ที่กระทำผิดต่อสถานที่กักขังจากเดิมจำคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับไม่เกิน           ห้าร้อยบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
                7. การกำหนดให้สิ่งของต้องห้ามเป็นไปตามที่รัฐมนตรีกำหนดและประกาศในราชกิจจานุเบกษา
                8. กำหนดให้ผู้เป็นหัวหน้าบังคับบัญชาสถานที่กักขังมีอำนาจที่จะดำเนินการลงโทษทางวินัยแก่ผู้ต้องกักขังแทนค่าปรับ ซึ่งกระทำผิดลหุโทษ หรือความผิดต่อสถานที่กักขังฯ ในสถานที่กักขังแทนการส่งเรื่องเพื่อ       ดำเนินคดีอาญา

3. เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร    (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [การกำหนดรายชื่อบริษัทสำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด ให้เป็นผู้ยืมหรือผู้ให้ยืมหลักทรัพย์]
                คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการ     ลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [การกำหนดรายชื่อบริษัทสำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด         ให้เป็นผู้ยืมหรือผู้ให้ยืมหลักทรัพย์] ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วดำเนินการต่อไปได้
                สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา
                แก้ไขเพิ่มเติมนิยามคำว่า “ผู้ยืมหรือผู้ให้ยืม” ในมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความ      ในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 331) พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย         พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 500)          พ.ศ. 2553 ดังนี้
พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 500) พ.ศ. 2553
ร่าง พระราชกฤษฎีกาฯ ที่ กค. เสนอ
ร่างมาตรา 3 กำหนดให้ “ผู้ยืมหรือผู้ให้ยืม หมายความว่า ผู้ยืมหรือผู้ให้ยืมหลักทรัพย์ซึ่งเป็นบุคคล ดังต่อไปนี้
(1) ผู้ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(2) ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(3) ธนาคารแห่งประเทศไทย
(4) ซึ่งมอบหมายให้บุคคลตาม (1) หรือ (2) เป็นตัวแทนหรือนายหน้าในการทำสัญญายืมหรือให้ยืมหลักทรัพย์
(5) ผู้ซึ่งทำสัญญายืมหรือให้ยืมหลักทรัพย์กับบุคคลตาม (1) (2) หรือ (3) 
ร่างมาตรา 3 กำหนดให้ “ผู้ยืมหรือผู้ให้ยืม” หมายความว่า ผู้ยืมหรือผู้ให้ยืมหลักทรัพย์ซึ่งเป็นบุคคลดังต่อไปนี้
(1) ผู้ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(2) ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(3) สำนักหักบัญชีตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(4) ธนาคารแห่งประเทศไทย
(5) ผู้ซึ่งมอบหมายให้บุคคลตาม (1) (2) หรือ (3) เป็นตัวแทนหรือนายหน้าในการทำสัญญายืมหรือให้ยืมหลักทรัพย์
(6) ผู้ซึ่งทำสัญญายืมหรือให้ยืมหลักทรัพย์กับบุคคลตาม (1) (2) (3) หรือ (4)



4. เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลเหมืองง่า ตำบลในเมือง ตำบลต้นธง และตำบลบ้านแป้น อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน พ.ศ. ....
                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน      ในท้องที่ตำบลเหมืองง่า ตำบลในเมือง ตำบลต้นธง และตำบลบ้านแป้น อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
                สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา
                กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลเหมืองง่า ตำบลในเมือง ตำบลต้นธง และตำบลบ้านแป้น อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอนได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างและขยายถนนสายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 106 กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1033 มีส่วนแคบที่สุดสองร้อยเมตรและส่วนกว้างที่สุดหกร้อยเมตร

5. เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การจัดการน้ำเสีย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การจัดการน้ำเสีย (ฉบับที่ ..)     พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
                สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา
                แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การจัดการน้ำเสีย พ.ศ. 2538 เพื่อกำหนดให้ผู้รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสียสามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการได้ โดยให้ยกเลิกความในวรรคสองของมาตรา 26 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การจัดการน้ำเสีย พ. ศ. 2538 ปรากฏตามตารางเปรียบเทียบ ดังนี้

พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การจัดการน้ำเสีย
พ.ศ. 2538
ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การจัดการน้ำเสีย
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
     มาตรา 26 ในกรณีที่ผู้อำนวยการไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ และระเบียบ หรือข้อบังคับว่าด้วยระเบียบปฏิบัติงานไม่ได้กำหนดให้พนักงานตำแหน่งใดทำการแทนผู้อำนวยการ หรือเมื่อตำแหน่งผู้อำนวยการว่างลงและในระหว่างที่ยังมิได้มีการแต่งตั้งผู้อำนวยการ ให้คณะกรรมการแต่งตั้งพนักงานคนหนึ่งเป็นผู้รักษาการแทนผู้อำนวยการ
     ให้ผู้รักษาการแทนผู้อำนวยการมีอำนาจหน้าที่อย่างเดียวกับผู้อำนวยการ เว้นแต่อำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการในฐานะกรรมการ

     มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในวรรคสองของมาตรา 26 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การจัดการน้ำเสีย         พ.ศ. 2538 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
     ให้ผู้รักษาการแทนผู้อำนวยการมีอำนาจหน้าที่   อย่างเดียวกับผู้อำนวยการ

6. เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ....
                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้


                สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา
                1. กำหนดให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยขอนแก่นกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2554
                2. กำหนดให้เปลี่ยนชื่อส่วนราชการในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ดังนี้

ส่วนราชการเดิม
ส่วนราชการตามร่างพระราชกฤษฎีกาตามข้อ 1
ศูนย์บริการวิชาการ
สำนักบริการวิชาการ (ร่างมาตรา 4 (20))
สำนักทะเบียนและประมวลผล
สำนักบริหารและพัฒนาวิชาการ (ร่างมาตรา 4 (21))
ศูนย์คอมพิวเตอร์
สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ (ร่างมาตรา 4 (22))
สำนักวิทยบริการ
สำนักหอสมุดและทรัพยากรการเรียนรู้ (ร่างมาตรา 4 (23))

7. เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันใน       เขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ในท้องที่ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. ....
                คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ในท้องที่ตำบลมาบตาพุด          อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. ....            ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง             แล้วดำเนินการต่อไปได้
                สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา
                ให้เปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ซึ่งพลเมืองเลิกใช้ประโยชน์แล้ว ในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ในท้องที่ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง เนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ 77 1/10 ตารางวา เป็นกรรมสิทธิ์ของ กนอ.

8. เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมอาร์ ไอ แอล ในท้องที่ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
                คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมอาร์ ไอ แอล ในท้องที่ตำบลมาบตาพุด      อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วดำเนินการต่อไปได้
                สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา
                ให้เปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ซึ่งพลเมืองเลิกใช้ประโยชน์แล้ว ในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมอาร์ ไอ แอล ในท้องที่ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ 1 งาน 47 9/10 ตารางวา เป็นกรรมสิทธิ์ของ กนอ.

9. เรื่อง ร่างกฎกระทรวงกำหนดเขตท่าเรือ เขตจอดเรือ และเขตควบคุมการเดินเรือ บริเวณอ่าวพัทยา เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและการออกใบอนุญาตใช้เรือและการประกันภัยสำหรับเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้กิจการพิเศษ (เจ็ตสกี     เพื่อเช่า) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ
                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดเขตท่าเรือ เขตจอดเรือ และเขตควบคุมการเดินเรือ บริเวณอ่าวพัทยา เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและการออกใบอนุญาตใช้เรือและการประกันภัยสำหรับเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการ      ใช้กิจการพิเศษ (เจ็ตสกีเพื่อเช่า) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้
                สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
               1. ร่างกฎกระทรวงกำหนดเขตท่าเรือ เขตจอดเรือ และเขตควบคุมการเดินเรือ บริเวณ        อ่าวพัทยา เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี พ.ศ. ....
                   1.1 กำหนดให้ยกเลิกกฎกระทรวง ฉบับที่ 32 (พ.ศ. 2521) ออกตามความในพระราชบัญญัติ    การเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2456 และกฎกระทรวง ฉบับที่ 62 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2456
                   1.2 กำหนดเขตท่าเรือ เขตจอดเรือ และเขตควบคุมการเดินเรือบริเวณอ่าวพัทยา เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี
                2. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและการออกใบอนุญาตใช้เรือและการประกันภัยสำหรับเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้กิจการพิเศษ (เจ็ตสกีเพื่อเช่า) พ.ศ. ....         รวม 2 ฉบับ
                   2.1 กำหนดให้เจ้าของเรือที่ประสงค์จะขอรับใบอนุญาตใช้เรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้กิจการพิเศษ (เจ็ตสกีเพื่อเช่า) ให้ยื่นคำขอต่อเจ้าพนักงานเพื่อออกใบอนุญาตตามที่กำหนด
                   2.2 กำหนดให้เจ้าของเรือที่ประสงค์จะขอรับใบอนุญาตใช้เรือ สำหรับเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้กิจการพิเศษ (เจ็ตสกีเพื่อเช่า) ต้องแสดงสัญญาประกันภัยและกรมธรรม์ประกันภัยที่มีผลคุ้มครองชีวิตและร่างกายของผู้ใช้เรือ ชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมถึงตัวเรือเจ็ตสกี
                   2.3 กำหนดให้เจ้าของเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้กิจการพิเศษ (เจ็ตสกีเพื่อเช่า) เป็นผู้มีหน้าที่จัดหาประกันภัย
                   2.4 กำหนดให้ผู้ที่ได้รับความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยและกรมธรรม์ประกันภัย คือ ผู้ใช้เรือ ทายาทของผู้ใช้เรือ บุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหาย รวมถึงเจ้าของเรือ
                   2.5 กำหนดให้ความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย ได้แก่ การเสียชีวิต ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง สูญเสียอวัยวะ ค่ารักษาพยาบาล ความเสียหายต่อทรัพย์สินและกำหนดอัตราของจำนวนเงินเอาประกันภัยดังกล่าว รวมกันจำนวนเงิน 200,000 บาท/ครั้ง/ปี และอัตราจำนวนเงินเอาประกันของความเสียหายต่อตัวเรือ จำนวนเงิน 50,000 บาท/ครั้ง

10. เรื่อง ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. ....
                   คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
                   สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
                   1. กำหนดให้การคำนวณพื้นที่ใช้สอยอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้คำนวณเฉพาะพื้นที่อาคารที่ใช้ประโยชน์เพื่อประกอบกิจการพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งเท่านั้น
                   2. กำหนดห้ามก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งที่มีพื้นที่ใช้สอยอาคารรวมกันเพื่อประกอบกิจการในอาคารหลังเดียวกันหรือหลายหลังในท้องที่จังหวัดพิษณุโลก เว้นแต่พื้นที่บริเวณตามกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่ตำบลบ้านกร่าง ตำบลจอมทอง ตำบลปากโทก ตำบลหัวรอ ตำบลดอนทอง ตำบลพลายชุมพล ตำบลสมอแข        ตำบลบ้านคลอง ตำบลอรัญญิก ตำบลในเมือง ตำบลวัดจันทร์ ตำบลท่าทอง ตำบลบึงพระ และตำบลท่าโพธิ์      อำเภอเมืองพิษณุโลก ตำบลวังทอง และตำบลวังพิกุล อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. 2547
                   3. กำหนดให้ภายใต้บังคับของข้อ 2 ภายในพื้นที่เขตเทศบาลทุกแห่งห้ามก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งที่มีพื้นที่ใช้สอยอาคารรวมกันเพื่อประกอบกิจการในอาคารหลังเดียวกันหรือหลายหลังเกิน    200 ตารางเมตร
                   4. กำหนดให้ภายใต้บังคับของข้อ 2 และข้อ 3 ห้ามมิให้ก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งที่มีพื้นที่ใช้สอยอาคารรวมกันเพื่อประกอบกิจการในอาคารหลังเดียวกันหรือหลายหลังตั้งแต่ 200 ตารางเมตร แต่ไม่เกิน 1,000 ตารางเมตร หรือเกิน 1,000 ตารางเมตร เว้นแต่จะเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด
                   5. กำหนดห้ามมิให้ดัดแปลงหรือเปลี่ยนการใช้อาคารใด ๆ ให้เป็นอาคารประเภทที่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 2  ข้อ 3 และข้อ 4 ภายในบริเวณพื้นที่ที่กำหนดในข้อ 2 ข้อ 3 และข้อ 4
                   6. กำหนดให้อาคารที่มีอยู่แล้วในบริเวณพื้นที่ที่กำหนดตามข้อ 2 ข้อ 3 และข้อ 4 ก่อนหรือในวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงนี้ แต่ห้ามดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารดังกล่าวให้เป็นอาคารชนิดหรือประเภทที่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนด
                   7. กำหนดให้อาคารที่ได้รับใบอนุญาตหรือใบรับแจ้งการก่อสร้าง ดัดแปลงหรือเปลี่ยนการใช้อาคารตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายเฉพาะว่าด้วยกิจการนั้น ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ และยังก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารไม่แล้วเสร็จ ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงนี้ แต่จะขอเปลี่ยนแปลงการอนุญาตหรือการแจ้งให้เป็นการขัดต่อกฎกระทรวงนี้ไม่ได้
                  
11. เรื่อง ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนวังทอง จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. ....
              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนวังทอง จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแล้วดำเนินการต่อไปได้
                สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
                ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลวังทอง ตำบลชัยนาม และตำบลดินทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม

12. เรื่อง ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. ....
                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ   และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา     แล้วดำเนินการต่อไปได้
                สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
                ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลน้ำเที่ยง อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน        การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม


13. เรื่อง ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสิงห์บุรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสิงห์บุรี พ.ศ. 2554)
                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสิงห์บุรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสิงห์บุรี พ.ศ. 2554) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
                สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
                1. แก้ไขบัญชีท้ายกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสิงห์บุรี พ.ศ. 2554 ในที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม โดยเพิ่มขนาดโรงงานดังนี้
                    1.1 โรงงานลำดับที่ 9 (2) จากที่กำหนดให้ดำเนินการได้ในโรงงานจำพวกที่ 1 เป็นให้ดำเนินการได้ในโรงงานจำพวกที่ 1 และ 2
                    1.2 โรงงานลำดับที่ 2 (1) (2) และ (6) จากที่กำหนดให้ดำเนินการได้ในโรงงานจำพวกที่ 2 เป็นให้ดำเนินการได้ในโรงงานจำพวกที่ 2 และ 3
                    1.3 โรงงานลำดับที่ 9 (1) (5) และ (6) จากที่กำหนดให้ดำเนินการได้ในโรงงานจำพวกที่ 1 และ 2 เป็น ให้ดำเนินการได้ในโรงงานจำพวกที่ 1, 2 และ 3
                    1.4 โรงงานลำดับที่ 14 จากที่กำหนดให้ดำเนินการได้ในโรงงานจำพวกที่ 2 เป็นให้ดำเนินการได้ในโรงงานจำพวกที่ 2 และ 3
                    1.5 โรงงานลำดับที่ 15 (1) จากที่กำหนดให้ดำเนินการได้ในโรงงานจำพวกที่ 2 เป็นให้ดำเนินการได้ในโรงงานจำพวกที่ 2 และ 3 พร้อมทั้งตัดคำว่า “(เฉพาะในบริเวณฟาร์มปศุสัตว์)”
                    1.6 โรงงานลำดับที่ 20 (1) จากที่กำหนดให้ดำเนินการได้ในโรงงานจำพวกที่ 1 และ เป็นให้ดำเนินการได้ในโรงงานจำพวกที่ 1, 2 และ 3 และ
                    1.7 โรงงานลำดับที่ 58 (1) จากที่กำหนดให้ดำเนินการได้ในโรงงานจำพวกที่ เป็นให้ดำเนินการได้ในโรงงานจำพวกที่ 2 และ 3
                2. เพิ่มเติมบัญชีท้ายกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสิงห์บุรี พ.ศ. 2554 ในที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม ดังนี้
                    2.1 โรงงานลำดับที่ 3 (2) กำหนดให้ดำเนินการได้ในโรงงานจำพวกที่ 3
                    2.2 โรงงานลำดับที่ 7 (1) กำหนดให้ดำเนินการได้ในโรงงานจำพวกที่ 3
                    2.3 โรงงานลำดับที่ 43 (1) กำหนดให้ดำเนินการได้ในโรงงานจำพวกที่ 3 และ
                    2.4 โรงงานลำดับที่ 88 (เฉพาะผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์หรือชีวมวล) กำหนดให้ดำเนินการได้ในโรงงานจำพวกที่ 3
                3.  เพิ่มเติมข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินข้อ 11/1 ให้โรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการอยู่ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้มีผลใช้บังคับ และยังประกอบกิจการอยู่ขยายพื้นที่โรงงานได้เฉพาะในที่ดินแปลงเดียวกัน หรือติดต่อเป็นแปลงเดียวกันกับแปลงที่ดินที่เป็นที่ตั้งของโรงงานเดิม ซึ่งเจ้าของโรงงานเดิมเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองอยู่ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้มีผลใช้บังคับ หรือเป็นพื้นที่ในที่ดินที่เคยเป็นกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองของเจ้าของโรงงานเดิมอยู่ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้มีผลใช้บังคับ ทั้งนี้ ไม่เกินหนึ่งเท่าของพื้นที่โรงงานที่ใช้ในการผลิตเดิม

14. เรื่อง ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดหนองบัวลำภู พ.ศ. ....
                คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดหนองบัวลำภู พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้

              สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
                ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่จังหวัดหนองบัวลำภูเพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบทในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะและสภาพแวดล้อม

15. เรื่อง ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. ....
                คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมลงนาม และประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
                สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
              ปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โดยตัดภารกิจในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานอื่นใดตามที่คณะกรรมการมาตรฐานงานด้านนิติวิทยาศาสตร์และคณะกรรมการบริหารกิจการด้านนิติวิทยาศาสตร์มอบหมายออก และจัดตั้งกองตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เพื่อทำหน้าที่ดำเนินการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งแก้ไขอำนาจหน้าที่ของแต่ละส่วนราชการ

การแบ่งส่วนราชการเดิม
การแบ่งส่วนราชการที่ขอปรับปรุง
1. สำนักงานเลขานุการกรม
1. สำนักงานเลขานุการกรม
2. สำนักนิติวิทยาศาสตร์บริการ
2. กองตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์
3. สำนักมาตรฐานนิติวิทยาศาสตร์
3. กองนิติวิทยาศาสตร์บริการ
4. สำนักมาตรฐานนิติวิทยศาสตร์

16. เรื่อง ร่างกฎกระทรวงการประกาศกำหนดตำรับยาแผนไทยทั่วไปหรือตำราการแพทย์แผนไทยทั่วไป      พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวงการประกาศกำหนดตำรับยาแผนไทยของชาติหรือตำราการแพทย์แผนไทยของชาติ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงการขอรับอนุญาตและการอนุญาต  ข้อจำกัดสิทธิ และค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์จากตำรับยาแผนไทยของชาติหรือตำราการแพทย์แผนไทยของชาติ พ.ศ. ....
              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการประกาศกำหนดตำรับยาแผนไทยทั่วไปหรือตำราการแพทย์แผนไทยทั่วไป พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวงการประกาศกำหนดตำรับยาแผนไทยของชาติหรือตำราการแพทย์แผนไทยของชาติ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงการขอรับอนุญาตและการอนุญาต  ข้อจำกัดสิทธิ และค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์จากตำรับยาแผนไทยของชาติหรือตำราการแพทย์แผนไทยของชาติ พ.ศ. .... รวม 3 ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.)  ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ และให้ดำเนินการ    ต่อไปได้
                สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง     
              1. ร่างกฎกระทรวงการประกาศกำหนดตำรับยาแผนไทยทั่วไปหรือตำราการแพทย์แผนไทยทั่วไป พ.ศ. ....  กำหนดตำรับยาแผนไทยหรือตำราการแพทย์แผนไทยที่มีการใช้ประโยชน์กันอย่างแพร่หลายหรือที่พ้นอายุการคุ้มครองสิทธิ  ให้เป็นตำรับยาแผนไทยหรือตำราการแพทย์แผนไทยทั่วไป ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด
                2. ร่างกฎกระทรวงการประกาศกำหนดตำรับยาแผนไทยของชาติหรือตำราการแพทย์แผนไทยของชาติ พ.ศ. .... กำหนดให้ตำรับยาแผนไทยหรือตำราการแพทย์แผนไทยที่มีประโยชน์หรือมีคุณค่าในทางการแพทย์หรือการสาธารณสุขเป็นพิเศษ ให้เป็นตำรับยาแผนไทยของชาติหรือตำราการแพทย์แผนไทยของชาติ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด
                3. ร่างกฎกระทรวงการขอรับอนุญาตและการอนุญาต  ข้อจำกัดสิทธิ และค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์จากตำรับยาแผนไทยของชาติหรือตำราการแพทย์แผนไทยของชาติ พ.ศ. ....   กำหนดให้ผู้ประสงค์จะนำตำรับยาแผนไทยของชาติไปขอขึ้นทะเบียนตำรับยาและขออนุญาตผลิตตามกฎหมายว่าด้วยยา หรือนำไปทำการศึกษาวิจัยเพื่อปรับปรุงหรือพัฒนาเป็นตำรับยาใหม่เพื่อประโยชน์ในทางการค้า  หรือประสงค์จะทำการศึกษาวิจัยตำราการแพทย์แผนไทยของชาติ เพื่อปรับปรุงหรือพัฒนาภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยขึ้นใหม่ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในทางการค้า ยื่นคำขอรับอนุญาตใช้ประโยชน์และชำระค่าธรรมเนียมรวมทั้งค่าตอบแทนสำหรับการใช้ประโยชน์ต่อผู้อนุญาตตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับอนุญาตและการอนุญาต ข้อจำกัดสิทธิ และค่าตอบแทนที่กำหนด

17. เรื่อง ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในท้องที่ตำบลวัดเกต ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตำบลหนองผึ้ง ตำบลยางเนิ้ง และตำบลสารภี  อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และในท้องที่ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน         พ.ศ. ....
                   คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในท้องที่ตำบลวัดเกต ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตำบลหนองผึ้ง ตำบลยางเนิ้ง และตำบลสารภี  อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และในท้องที่ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน พ.ศ. .... ที่คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
                   สาระสำคัญของร่างประกาศ
                   1. กำหนดให้พื้นที่ภายในบริเวณที่วัดจากจุดกึ่งกลางของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 106 ในระยะ 40 เมตร ออกไปทั้งสองฟาก ในท้องที่ตำบลวัดเกต ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตำบลหนองผึ้ง ตำบลยางเนิ้ง และตำบลสารภี  อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และในท้องที่ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน เป็นเขตพื้นที่ที่ให้ใช้มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
                   2. กำหนดให้ในเขตพื้นที่ที่ให้ใช้มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ห้ามการกระทำหรือการประกอบกิจกรรม ได้แก่ การตัด ฟัน โค่นต้นยางนาและต้นขี้เหล็ก การกระทำอันตรายต่อระบบรากหรือลำต้นของต้นยางนาและต้นขี้เหล็ก เป็นต้น รวมทั้งการห้ามก่อสร้าง หรือดัดแปลงอาคารให้มีลักษณะบางประการหรือให้เป็นอาคารบางประเภท
                   3. กำหนดให้เพื่อประโยชน์ในการสงวน รักษา อนุรักษ์ ปกป้อง ฟื้นฟู บูรณะและจัดการด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ตามแผนที่ท้ายประกาศนี้ ให้จังหวัดจัดทำแผนฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ และเมื่อแผนดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการแล้วให้นำไปบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมระดับจังหวัดเพื่อดำเนินการต่อไป
                   4. กำหนดให้ร่างประกาศนี้ใช้บังคับกำหนดระยะเวลาห้าปี



เศรษฐกิจ – สังคม

18. เรื่อง โครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง
                คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ
                สาระสำคัญของเรื่อง
                กษ. รายงานว่า โครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ประกอบด้วย
                1. หลักการสำคัญ คือ เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้งให้มีรายได้และสร้างโอกาสให้ชุมชนเกษตรสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตรและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของชุมชน โดยชุมชนเป็นผู้กำหนดกิจกรรมการดำเนินงานที่สอดคล้องกับความต้องการ และเป็นผู้บริหารจัดการโครงการให้เกิดผลสำเร็จ      อันจะนำไปสู่การพัฒนาการเกษตรของชุมชนอย่างยั่งยืน
                2. วัตถุประสงค์ เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและชุมชนเกษตรในช่วงฤดูแล้ง พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตรและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของชุมชนเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนจากภัยแล้งในระยะยาว
3. เป้าหมายและพื้นที่ดำเนินการ คือ พื้นที่เกษตรที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบภัยแล้ง ปี 2557/2558 จำนวน 3,052 ตำบล 58 จังหวัด จากบัญชีรายชื่อพื้นที่คาดการณ์ความแห้งแล้งในพื้นที่เกษตร ปี 2558 ตามแผนเตรียมการรับสถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตร ประจำปีงบประมาณ 2558
                4. แนวทางการดำเนินงาน
                        4.1 ให้ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล (ศบกต.) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารงานด้านการเกษตรระดับตำบลที่จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2543 ทำหน้าที่เป็นองค์กรตัวแทนของชุมชนในพื้นที่เป้าหมาย ขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินกิจกรรม ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยผ่านความเห็นชอบจากชุมชน
                        4.2 กำหนดกลไกในการขับเคลื่อนและบริหารโครงการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการฯ ที่มีองค์ประกอบครอบคลุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ ทำหน้าที่กลั่นกรอง อนุมัติโครงการ แนะนำตรวจสอบ ติดตาม กำกับการดำเนินงานโครงการ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล

19. เรื่อง  ขอความเห็นชอบให้ข้าราชการลาเข้าร่วมอุปสมบทในโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 5 รอบ 60 พรรษา โดยไม่ถือเป็นวันลา
                คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)  เสนอดังนี้
1.ให้ข้าราชการทุกประเภท พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำ  ลูกจ้างชั่วคราวของส่วน
ราชการ หน่วยงานของรัฐ  และพนักงานรัฐวิสาหกิจ  ลาอุปสมบทเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี  เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 5 รอบ   60 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2558 เป็นระยะเวลา 15 วัน  (นับระยะเวลาตั้งแต่เตรียมการอุปสมบทถึงลาสิกขา)  ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์  - เมษายน 2558 โดยไม่ถือเป็นวันลาเสมือนเป็นการปฏิบัติราชการและได้รับเงินเดือนปกติ
2.การใช้สิทธิการลาตามข้อ 1 ให้สิทธิแก่ข้าราชการทุกประเภท พนักงานราชการ  รวมทั้ง
ลูกจ้างประจำ  ลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐและพนักงานรัฐวิสาหกิจที่เคยลาอุปสมบทระหว่างรับราชการมาแล้ว  และข้าราชการซึ่งเคยอุปสมบทในพระพุทธศาสนาตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 สามารถจะลาอุปสมบทเพื่อเฉลิมพระเกียรติตามมติคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ได้อีก สำหรับผู้ที่ไม่เคยลาอุปสมบทระหว่างรับราชการ  หากได้ลาอุปสมบทเพื่อเฉลิมพระเกียรติตามมติคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้แล้ว ไม่มีผลกระทบถึงสิทธิในการลาอุปสมบทในอนาคต  ซึ่งเป็นการใช้สิทธิการลาอุปสมบทครั้งแรกตั้งแต่เริ่มราชการ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2555  โดยยังคงได้สิทธิการลาอุปสมบทและยังคงได้สิทธิในการรับเงินเดือนตามปกติ  (ไม่เกินหนึ่งร้อยยี่สิบวัน) ตามพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 
3.การใช้สิทธิตามมติคณะรัฐมนตรี ผู้ลาจะต้องเข้าร่วมอุปสมบทในโครงการที่ส่วนราชการ
หน่วยงานภาครัฐหรือภาคเอกชน ร่วมกับคณะสงฆ์จัดขึ้นเป็นโครงการอย่างชัดเจน  และมีการจัดอบรมตามหลักสูตรสำหรับผู้บวชระยะสั้นที่คณะสงฆ์กำหนด  ภายในระยะเวลาที่กำหนดของโครงการแต่ไม่เกิน 15 วัน  ทั้งนี้ ให้ลาได้ตามระยะเวลาที่กำหนดของโครงการแต่ไม่เกิน 15 วัน  หากอุปสมบทเป็นเอกเทศโดยไม่ได้เข้าร่วมโครงการตามที่กำหนดจะไม่ได้รับสิทธิในการลาดังกล่าว
สาระสำคัญของเรื่อง
พศ. รายงานว่า
                1. คณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม     ราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน  2558 ได้ขอให้หน่วยงานต่าง ๆ  ทั้งภาคราชการและเอกชนจัดกิจกรรมร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี  ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ  ในวันที่ 2  เมษายน 2558 และให้จัดทำโครงการและกิจกรรมครอบคลุมทุกด้าน โดยเฉพาะโครงการและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธไมตรีที่ดีกับต่างประเทศ  ในการนี้ พศ. ในฐานะหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ใน   การส่งเสริมสนับสนุนและอุปถัมภ์คณะสงฆ์และการดำเนินกิจการทางพระพุทธศาสนา  จึงได้ร่วมกับคณะสงฆ์ โดยมหาเถรสมาคม  สำนักงานพระธรรมทูตไทยสายอินเดีย – เนปาล  กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) โดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี  สาธารณรัฐอินเดีย   ส่วนราชการ  หน่วยงานรัฐวิสาหกิจทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค  รวมทั้งภาคเอกชนกำหนดจัดกิจกรรมโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี   ในโอกาสฉลองพระชนมมายุ 5 รอบ 60 พรรษา  ณ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์  และวัดไทย        พุทธคยา รัฐพิหาร   สาธารณรัฐอินเดีย  (ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์  - 8 มีนาคม 2558) และสถานที่ที่คณะสงฆ์ร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ  กำหนดจัดขึ้นในประเทศ   และต่างประเทศระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน 2558 เพื่อร่วมถวายเป็นพระราชกุศลในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี   จะทรงเจริญพระชนมายุ 5 รอบ 60 พรรษา  ในวันที่   2 เมษายน 2558
                2. โครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี   ในโอกาสฉลองพระชนมมายุ ครบ 5 รอบ 60 พรรษา เป็นโครงการหนึ่งที่คณะสงฆ์  โดยมหาเถรสมาคม เห็นชอบให้ พศ. จัดขึ้น (ที่ประชุมมหาเถรสมาคมได้มีมติเมื่อวันที่  8 มกราคม 2558 รับทราบและเห็นชอบโครงการฯ แล้ว) เพื่อให้หน่วยงานและประชาชนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี   โดยการบำเพ็ญความดี  และปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระราชกุศล  เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม ให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการได้ศึกษาเรียนรู้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา  เพื่อจะได้นำมาเป็นหลักประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวันต่อไป มีสาระสำคัญโดยสรุป ดังนี้
                   2.1 วัตถุประสงค์  
                        2.1.1 เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ         สยามบรมราชกุมารี    เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุครบ 5 รอบ 60 พรรษา
                        2.1.2 เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ โดยการศึกษาและปฏิบัติธรรมตามหลักคำสอนในพระพุทธศาสนาตามแนวทางที่ถูกต้องอย่างแพร่หลาย
                        2.1.3 เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงให้กับสถาบันพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาที่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่นับถือมาช้านาน
                   2.2 เป้าหมาย : ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ ครบ 5 รอบ  60 พรรษา  ที่ส่วนราชการ และภาคส่วนต่าง ๆ  ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนร่วมกับคณะสงฆ์จัดขึ้นจำนวนไม่น้อยกว่า 3,000 รูป
                   2.3 สถานที่ดำเนินการ
                        1) ส่วนกลาง คณะสงฆ์โดยมหาเถรสมาคม พศ. หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน  จัดขึ้นตามสถานที่ที่กำหนด
                        2) ส่วนภูมิภาค  คณะสงฆ์ในจังหวัดโดยเจ้าคณะจังหวัด   ส่วนราชการระดับจังหวัด สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหว้ด และภาคเอกชน  จัดขึ้นตามสถานที่ที่กำหนด
                   2.4 ระยะเวลาดำเนินการ ระหว่างเดือน กุมภาพันธ์ – เมษายน 2558
                   2.5 แนวทางการดำเนินโครงการ
                        1) การจัดโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ ต้องมีหน่วยงานรับผิดชอบการดำเนินการที่ชัดเจน 
                        2) การอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ  ต้องจัดทำเป็นโครงการ กำหนดรายละเอียดในเรื่อง    ต่าง ๆ  ไว้อย่างชัดเจน
                        3) การจัดพิธีการต่าง ๆ   ต้องเป็นไปอย่างสมพระเกียรติเรียบง่าย  ประหยัด  ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน มีการกำหนดระเบียบการรับสมัคร  คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมอุปสมบทตามหลักพระธรรมวินัยและมีระเบียบปฏิบัติไว้อย่างชัดเจน
                        4) การอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ ให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ร่วมกิจกรรมโดยทั่วกัน  และให้ข้าราชการเป็นต้นแบบแก่ประชาชนในการเข้าร่วมกิจกรรมโดยให้สิทธิในการลาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติได้ โดยไม่ถือเป็นวันลา
                                ฯลฯ
                   2.6        ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
                        1) งบประมาณปกติของหน่วยงานหรือส่วนราชการที่จัดโครงการ
                        2) การร่วมบริจาคสมทบของพุทธศาสนิกชน  และผู้ร่วมอุปสมบท
                3. การอุปสมบทในโอกาสมหามงคลดังกล่าว ผู้เข้าร่วมอุปสมบทจะได้มีโอกาสรับการศึกษาและเรียนรู้หลักในการปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา  ได้รับการฝึกฝนอบรมตนเองให้เป็นคนดีมีศีลธรรม และได้ร่วมบำเพ็ญกุศลโดยการเจริญจิตภาวนาถวายพระราชกุศล  ซึ่งข้าราชการและลูกจ้างของหน่วยงานภาครัฐและองค์กรรัฐวิสาหกิจควรจะเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชนในการร่วมทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลในครั้งนี้ จึงควรส่งเสริมให้ข้าราชการและลูกจ้างของหน่วยงานภาครัฐและองค์กรรัฐวิสาหกิจทุกประเภทที่มีความประสงค์จะอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ มีโอกาสเข้าร่วมอุปสมบททั่วกันโดยให้ได้รับสิทธิในการเข้าร่วมอุปสมบทเป็นกรณีพิเศษ  โดยไม่ถือเป็นวันลา  เสมือนเป็นการปฏิบัติราชการและได้รับเงินเดือนตามปกติ  ข้าราชการและลูกจ้างของหน่วยงานภาครัฐและองค์กรรัฐวิสาหกิจผู้ใดเคยลาอุปสมบทระหว่างรับราชการแล้ว   ก็สามารถลาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้ได้อีกและการอุปสมบทในครั้งนี้ ไม่เป็นเหตุให้เสียสิทธิในการลาอุปสมบทตามปกติในอนาคตซึ่งเป็นการใช้สิทธิการลาอุปสมบทครั้งแรก ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2555 การจะได้รับสิทธิดังกล่าว และการยกเว้นระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2555 กระทำได้โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี

20. เรื่อง การพิจารณากำหนดวันหยุดราชการประจำปี พ.ศ. 2558  เพิ่มเป็นกรณีพิเศษ
                คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เสนอ กำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษในปี พ.ศ. 2558 โดยกำหนดให้ วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม 2558 เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ จำนวน 1 วัน เพื่อให้มีวันหยุดต่อเนื่อง 4 วัน ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม 2558 – วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม 2558 (วันฉัตรมงคล) ให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสนับสนุนภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลด้านการท่องเที่ยวที่ได้กำหนดให้ปี 2558 เป็นปีท่องเที่ยว     วิถีไทย

21. เรื่อง สรุปรายงานการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล รอบ 2 เดือน (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน – 30 พฤศจิกายน 2557)
                คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล รอบ 2 เดือน (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน – 30 พฤศจิกายน 2557) ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) เสนอ
                สาระสำคัญของรายงานการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล รอบ 2 เดือน (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน – 30 พฤศจิกายน 2557) มีผลงานสำคัญสรุปได้ ดังนี้
              1. การสร้างความปรองดองสมานฉันท์
                2. การปฏิรูปประเทศ
              3. การบริหารราชการแผ่นดิน คือ 1) การปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ 2) การรักษาความมั่นคงของรัฐและต่างประเทศ ได้แก่ 1) การฟื้นฟูความเชื่อมั่นและสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ 2) การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3) การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ 4) การแก้ไขปัญหายาเสพติด  
                   3.3 การลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ได้แก่ 1) เร่งสร้างโอกาส อาชีพ และการมีรายได้ที่มั่นคง 2) การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน 3) การพัฒนา/ส่งเสริมระบบการออม
                   3.4 การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ได้แก่ 1) การยกระดับคุณภาพการศึกษา พัฒนาคุณภาพนักเรียนและสถานศึกษา 2) การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
3) จัดทำโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา 4) การอนุรักษ์ สืบทอด และพัฒนามรดก
                   3.5 การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุขและสุขภาพของประชาชน ได้แก่              1) วางรากฐานให้ระบบหลักประกันสุขภาพครอบคลุมประชากรในทุกภาคส่วนอย่างมีคุณภาพ 2) พัฒนาระบบบริการสุขภาพ 3) ป้องกันและแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุในการจราจรอันนำไปสู่การบาดเจ็บและการเสียชีวิต 4) ป้องกันและการแก้ไขปัญหาตั้งครรภ์ในวัยรุ่น และปัญหาด้านการแพทย์และจริยธรรมของการอุ้มบุญ การปลูกถ่ายอวัยวะและสเต็มเซลล์
                   3.6 การบริหารเศรษฐกิจ ได้แก่ 1) ผลการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ 2) เร่งส่งเสริมการลงทุน   3) การบริหารจัดการหนี้ภาครัฐที่เกิดขึ้นในช่วงรัฐบาลที่ผ่านมา 4) การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน
                   3.7 การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน ได้แก่ 1) เร่งส่งเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนในภูมิภาคอาเซียน 2) ด้านการพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันของผู้ประกอบการและการพัฒนาแรงงานภาคอุตสาหกรรมของไทย
                   3.8 การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม สนับสนุนการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาของประเทศ ได้แก่ 1) มาตรการส่งเสริมการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาผ่านกลไกของ BOI 2) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
                   3.9 การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรและการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ได้แก่ 1) เร่งปกป้องและฟื้นฟูพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า 2) การแก้ไขปัญหาภัยแล้ง 3) เร่งรัดการควบคุมมลพิษทั้งทางอากาศ ขยะ และน้ำเสีย ที่เกิดจากการผลิตและบริโภค เพื่อสร้างคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่ประชาชน
                   3.10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาลและการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ ได้แก่ 1) การปรับปรุงระบบราชการ 2) กระจายอำนาจเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณะได้โดยรวดเร็ว ประหยัด และสะดวก 3) การปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมให้แก่ข้าราชการ
                   3.11 การปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ได้แก่ 1) การปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัย 2) การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและความรู้ทางนิติวิทยาศาสตร์มาใช้

22. เรื่อง ขอขยายระยะเวลาดำเนินมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนด้านการเดินทางออกไปอีก       6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 31 กรกฎาคม 2558
                   คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ดังนี้
                   1. ขยายระยะเวลาดำเนินมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนด้านการเดินทางออกไปอีก      6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 31 กรกฎาคม 2558 วงเงินชดเชยรวมทั้งสิ้น 2,113 ล้านบาท โดยให้    สำนักงบประมาณ (สงป.) พิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายจากการดำเนินมาตรการลดภาระ       ค่าครองชีพของประชาชนด้านการเดินทางต่อไป ดังนี้
                             1.1 มาตรการลดค่าใช้จ่ายเดินทางรถโดยสารประจำทางดำเนินการผ่านองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โดยรัฐรับภาระค่าใช้จ่ายการจัดรถโดยสารประจำทางธรรมดาจำนวน 800 คันต่อวัน ใน 73 เส้นทาง ให้บริการแก่ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
                             1.2 มาตรการลดค่าใช้จ่ายเดินทางโดยรถไฟชั้น 3 ดำเนินการผ่านการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยรัฐรับภาระค่าใช้จ่ายการจัดรถไฟชั้น 3 เชิงสังคม จำนวน 164 ขบวนต่อวัน และรถไฟชั้น 3 ระยะทางไกล ในขบวนรถเชิงพาณิชย์ จำนวน 8 ขบวนต่อวัน ให้บริการแก่ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
                   2. กำชับให้กระทรวงคมนาคม (คค.) เร่งรัดสร้างความชัดเจนในรายละเอียดของมาตรการใหม่      (โดยให้บริการฟรีเฉพาะกลุ่มแบบมีเงื่อนไข เช่น การใช้ระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-ticket) การจัดทำบัตรให้สิทธิพิเศษ เป็นต้น) และเตรียมความพร้อมในส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถดำเนินมาตรการใหม่ได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเห็นชอบและเริ่มดำเนินการได้ภายในวันที่ 1 สิงหาคม 2558



ต่างประเทศ

23.  เรื่อง ขออนุมัติการจัดทำและลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถานว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้
1.                             1. อนุมัติการจัดทำและลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถานว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ทั้งนี้ หากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ให้ กก. พิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ  แทนคณะรัฐมนตรี โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
2.                                     2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นผู้ลงนามในความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน
3.                                     3. อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Power) ให้ผู้ลงนามที่อ้างถึงข้างต้นในการลงนามความตกลงฯ
              ร่างความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทย สาธารณรัฐอุซเบกิสถานว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวมีสาระสำคัญ ดังนี้
1.คู่ภาคีจะต้องเสริมสร้างและส่งเสริมความร่วมมือในสาขาการท่องเที่ยวภายใต้กฎหมายและ
ระเบียบข้อบังคับของประเทศเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวระหว่างกัน
                    2. คู่ภาคีจะต้องสนับสนุนความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการท่องเที่ยว และองค์กรอื่นที่เกี่ยวข้องและจะทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างคู่ภาคี ซึ่งรวมถึง
                       2.1  แลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยว และกิจกรรมส่งเสริมความรู้สำหรับการส่งเสริมการท่องเที่ยวทุกประเภทของคู่ภาคี
                       2.2  แลกเปลี่ยนข้อมูลการเผยแพร่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
                       2.3  แลกเปลี่ยนเอกสารอ้างอิงและสื่อโฆษณา
                       2.4  หาความเป็นไปได้ในการจัดนิทรรศการ   การประชุมและการสัมมนา และภาพยนตร์ในอาณาเขตของคู่ภาคี
                       2.5  ศึกษาโอกาสการทำงานร่วมกันและส่งเสริมความร่วมมือในการทำโรงแรมและสถาบันสำหรับนักท่องเที่ยวบนรากฐานของการพัฒนาการท่องเที่ยวของคู่ภาคี
                       2.6  จัดงานเทศกาลการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมการแสดงพื้นฐานของมือสมัครเล่น
                    3. คู่ภาคีโดยผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวต้องแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือในด้านสร้างสรรค์แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่และแลกเปลี่ยนประสบการณ์องค์กรการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ
                    4.  เพื่อปรับปรุงความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวภายในกรอบภารกิจทางการค้า เศรษฐกิจ  วิชาการ และเทคนิค  ระหว่างสาธารณรัฐอุซเบกิสถานและราชอาณาจักรไทยให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของทั้งสองประเทศ คู่ภาคีต้องจัดตั้งคณะทำงานร่วมกัน  ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกจากคู่ภาคี โดยจะต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้และทรัพยากรที่มีของคู่ภาคี
                    5.  ความตกลงนี้ต้องมีผลบังคับใช้ในวันที่มีการลงนามและต้องคงอยู่เป็นระยะเวลา 5 ปี  และต้องได้รับการต่ออายุโดยอัตโนมัติคราวละ 5 ปี  เว้นแต่ภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแจ้งผ่านเรื่องทางการทูตถึงเจตนาที่จะบอกเลิกความตกลงให้ภาคีอีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้าเป็นเวลา 6 เดือน 

24. เรื่อง การประชุมมิตรประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่างสมัยพิเศษระดับรัฐมนตรีช่วยหรือเทียบเท่าว่าด้วยการพัฒนาแม่น้ำโขงอย่างยั่นยืน (Extraordinary Friends of the Lower Mekong Initiative Sub-cabinet Level Meeting on Mekong Sustainability)
                   คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้
                   1. เห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมมิตรประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่างสมัยพิเศษระดับรัฐมนตรีช่วยหรือเทียบเท่าว่าด้วยการพัฒนาแม่น้ำโขงอย่างยั่นยืน (Extraordinary Friends of the Lower Mekong Initiative Sub-cabinet Level Meeting on Mekong Sustainability)
                   2. ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้ได้รับมอบหมายเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ และรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมดังกล่าว
                   3. หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมฯ ที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้ กต. ดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง



25. เรื่อง ร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง  ครั้งที่ 4
                คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ ดังนี้
1.  เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มประเทศอนุ
ภูมิภาคลุ่มน้ำโขง  ครั้งที่ 4
2.  อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจ
จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม)  เป็นผู้ให้การรับรองในร่างแถลงการณ์ร่วมฯ 
3.  หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ที่มิใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อ
ผลประโยชน์ของประเทศไทยให้เป็นดุลยพินิจของหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเป็นผู้พิจารณา โดยไม่ต้องนำกลับมาเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาใหม่
                สาระสำคัญของเรื่อง
                ทส. รายงานว่า การประชุมระดับรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (Greater  Mekong Sub-region  Fourth  Environment Minister’ Meeting) จัดทุก 3 ปีโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเห็นชอบต่อแถลงการณ์ร่วมสำหรับเป็นแนวทางในการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมภายใต้โครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง รวมถึงการให้การรับรองแผนความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม
                ทั้งนี้ ในการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ 4 ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 27-29 มกราคม 2558 ณ กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา มีหัวข้อหลักของการประชุม (Theme)  คือ การเพิ่มการลงทุนในต้นทุนทางธรรมชาติ  ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (Increasing  Investments in Natural Capital in the Greater Mekong Sub-region)  เพื่อหารือแนวทางในการส่งเสริมให้เกิดการใช้ต้นทุนทางธรรมชาติอย่างยั่งยืน  เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยในวันที่ 29 มกราคม 2558 จะมีการรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ 4

26. เรื่อง ขออนุมัติร่างบันทึกผลการประชุมแผนความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ครั้งที่ 6
                คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
                1. เห็นชอบร่างบันทึกผลการประชุมแผนความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ครั้งที่ 6 เป็นกรอบในการหารือ
                2. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างบันทึกผลการประชุมในส่วนที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินความสัมพันธ์ แต่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้กระทรวงพาณิชย์และคณะผู้แทนไทยที่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
                สาระสำคัญของร่างบันทึกผลการประชุมดังกล่าวเกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือทวิภาคีที่ทั้งสองประเทศได้ดำเนินการร่วมกันไว้ ประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะแก้ไข พัฒนาและ/หรือผลักดันให้เกิดความคืบหน้า เพื่อประโยชน์ของการดำเนินความสัมพันธ์ โดยมีประเด็นสำคัญที่จะมีการหยิบยกขึ้นหารือระหว่างการประชุมดังกล่าว ได้แก่ การส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างไทย – สปป.ลาว การอำนวยความสะดวกทางการค้า ความร่วมมือด้านทางการค้าและการลงทุน ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ และความร่วมมือภาคเอกชน เป็นต้น
                ทั้งนี้ ร่างบันทึกผลการประชุมเป็นเอกสารผลลัพธ์ที่สำคัญของการประชุมแผนความร่วมมือฯ และเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของไทยและ สปป.ลาว ที่มุ่งส่งเสริมแลกเปลี่ยนกระชับความสัมพันธ์ โดยมิได้มีเจตนาให้เป็นความตกลงที่ก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ ดังนั้น ร่างบันทึกผลการประชุมดังกล่าวจึงไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญ



แต่งตั้ง

27. เรื่อง ขอปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช
                คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอการปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช โดยเพิ่มผู้แทนเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าว 1 คน เป็นกรรมการในคณะกรรมการดังกล่าว

28. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข)
                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งนายสมหมาย ชินวรากร นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม  สาขากุมารเวชกรรม) กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2557       ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป 

29. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ         (กระทรวงสาธารณสุข)
                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งนายยอร์น จิระนคร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน (แพทย์) ระดับสูง) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง สาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2557 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป 

30. เรื่อง การอนุมัติองค์ประกอบคณะกรรมการฝ่ายไทยในคณะกรรมการบริหารมูลนิธิการศึกษาไทย-อเมริกัน (ฟุลไบรท์) ประจำปี 2558
                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติองค์ประกอบคณะกรรมการฝ่ายไทยในคณะกรรมการบริหารมูลนิธิการศึกษาไทย-อเมริกัน (ฟุลไบรท์) ประจำปี 2558 ซึ่งเป็นการคงรายชื่อคณะกรรมการฝ่ายไทยประจำปี 2557 ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ 1. นายมนัสพาสน์ ชูโต อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ประธานกรรมการ 2. อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ หรือผู้แทน กรรมการ 3. ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ หรือผู้แทน กรรมการ 4. ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการ 5. ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กรรมการ 6. ผู้แทนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กรรมการ 7. นายกสมาคมฟุลไบรท์ไทย กรรมการ


31. เรื่อง ขอความเห็นชอบในการแต่งตั้งและกำหนดเงินเดือนของผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย
                คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอการแต่งตั้งนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในอัตราเงินเดือน 370,000 บาท รวมทั้งค่าตอบแทนพิเศษประจำปี และสิทธิประโยชน์อื่นที่ผู้รับจ้างจะได้รับ ตามที่กระทรวงการคลังเห็นชอบแล้ว

32. เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ (เพิ่มเติม)
                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ (เพิ่มเติม) จำนวน 3 คน แทนตำแหน่งที่ว่าง ดังนี้ 1. นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย 2. พลตำรวจโท ธีรจิตร์ อุตมะ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสอบสวนคดีอาญา            3. พันตำรวจเอก สีหนาท ประยูรรัตน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2558 เป็นต้นไป

33. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง กระทรวงมหาดไทย
                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง กระทรวงมหาดไทย จำนวน 10 ราย ดังนี้                
                1. นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดระยอง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
                2. นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดนครสวรรค์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
                3. นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดอุบลราชธานี ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
                4. นายสุรพล วาณิชเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดกำแพงเพชร ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
                5. นายชยพล ธิติศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดหนองบัวลำภู ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดนครสวรรค์
                6. นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดศรีสะเกษ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดอุบลราชธานี
                7. นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดระยอง
                8. นายอำนวย ตั้งเจริญชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดหนองบัวลำภู
                9. นายยุทธนา วิริยะกิตติ ผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง    ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดศรีสะเกษ
                10. นายธานี ธัญญาโภชน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดกำแพงเพชร 
                ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เป็นต้นไป

*************************
ที่มา เว็บรัฐบาลไทย

โดย www.tuewsob.com (ผอ.นิกร เพ็งลี)

อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ 
เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)
เน็ตช้า ... คลิ๊กที่  http://tuewsob.blogspot.com
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ
... ห้อง ติวสอบ (กรณีศึกษา) 
ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 1  คลิ๊กที่ http://tuewsobkruthailand.blogspot.com
ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 2  คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com

  (  คลิ๊ก ) สมัครติวสอบผู้บริหารภาค 4 ภาค 30 จุดปี 2557-2558 


   คลิ๊ก ) สมัครติวสอบครูผู้ช่วย ปี 2557-2558 


ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา  ที่ 

" ติวสอบดอทคอม "  เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย  (ผอ.นิกร  เพ็งลี)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค
พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

ห้องสนทนา บน facebook

ห้องสนทนา บน facebook
ห้องสนทนาติวสอบดอทคอม

ข้อสอบออนไลน์ "ติวสอบดอทคอม" ชุดใหม่

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค

แจ้งย้ายเว็บไปที่ www.tuewsob.com

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค (ปรับปรุงใหม่)

รวม เล่ม + แผ่นพับ + ชีตช่วยจำ + DVD เนื้อหา + เสียงบรรยาย + EMS = 800 บาท
สนใจ คู่มือ ภาค ก ข ค ผู้บริหาร คลิ๊กเลย

สั่งจอง... โอนเงินเข้าชื่อบัญชี นายนิกร เพ็งลี ธนาคารกรุงไทย สาขาจอหอ บัญชีเลขที่ 341-1-38912-5 โอนเงินแล้วกรุณาโทรแจ้ง
0872494141 หรือ 0839660030

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร
คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

ติวสอบออนไลน์ บน facebook

ติวสอบออนไลน์ บน facebook
ติวสอบออนไลน์ บน facebook

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม
คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม
ติวสอบดอทคอม